xs
xsm
sm
md
lg

พม่า-กะเหรี่ยง ยังรบหนักหนีตายเข้าไทยอีก 200 กว่าชีวิต!เมียนมาบินทิ้งระเบิดห่างชายแดนแม่ระมาดแค่ 2 กม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตาก – รัฐกะเหรี่ยง พื้นที่ยุทธศาสตร์ตามแนวเส้นทาง AH1 /ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ยังระอุ..หลังกองกำลัง KNLA ระดมพลบุก-ส่งโดรนโจมตี ตั้งแต่ 15 เมษาฯ ล่าสุดกองทัพพม่าบินทิ้งระเบิดโจมตีตั้งแต่ช่วงสาย-กลางดึก 18 เม.ย. ห่างชายแดนแม่ระมาดแค่ 2 กม.จนชาวเมียนมาหนีตายเข้าไทยอีกกว่า 200 ชีวิต


กองกำลังกะเหรี่ยง KNLA-กองทัพเมียนมา ในพื้นที่จังหวัดกอกาเร็ก รัฐกะเหรี่ยง หนึ่งในเมืองยุทธศาสตร์ตามแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (ทะเลจีนใต้ หรือทะเลตะวันออก-อันดามัน / เวียดนาม-ลาว-ไทย-เมียน) อย่างต่อเนื่อง หลังจากกองทัพกะเหรี่ยงเปิดยุทธการยึดเมืองเมียนมา ส่งกำลังทหาร 3,000 นาย ถล่มทหารเมียนมา และยึดเส้นทางสายกอกาเร็ก-โจ่งโด ตั้งแต่ 15 เม.ย.เป็นต้น

ล่าสุด 18 เม.ย.ทหารเมียนมา ใช้เครื่องบินรบ (แบบ YAK-130) จำนวน 1 ลำ ทิ้งระเบิดบริเวณพื้นที่บ้านตะลวยโถ่ง อ.กอกาเร็ก จ.กอกาเร็ก รัฐกะเหรี่ยง เมียนมา ด้านตรงข้ามบ้านริมเมย ม.2 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จังหวัดตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 50 กม.


ต่อมาเวลาประมาณ 12.30 น.กองกำลัง KNLA พล.น.7 ทำการตอบโต้ โดยได้นำกำลังเข้าประชิดปิดล้อม และใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ทิ้งระเบิดโจมตีทหารเมียนมา พัน.ร.24 ฐานฯบ้านมอพาซู อ.เมียวดี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ด้านตรงข้ามบ้านห้วยปลากอง ม.12 ต.ขะเนจื้อ อ.แม่ระมาด จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดน ประมาณ 2 กม. โดยในระหว่างการปะทะ ทหารเมียนมา พัน.ร.24 ได้ทำการยิง อาวุธหนัก ตอบโต้เป็นระยะ ๆ


กระทั่งเกือบเที่ยงคืนที่ผ่านมา(18 เม.ย.) ทหารเมียนมาเปิดปฏิบัติการทางอากาศ ใช้เครื่องบินโจมตีกองกำลังบริเวณพื้นที่บ้านมอพาซู ห่างจากแนวชายแดน 2 กม. ส่งผลให้ผู้ลี้ภัยความไม่สงบชาวเมียนมา อพยพข้ามช่องทาง/ท่าข้ามธรรมชาติ ท่าข้ามถ้ำโมกขละ บ้านห้วยปลากอง ม.12 ต.ขะเนจื้อ อ.แม่ระมาด จ.ตาก รวม 215 คน เป็นชาย 39 คน หญิง 72 คน เด็กชาย 53 คน เด็กหญิง 51 คน และคาดว่าน่าจะมีผู้อพยพชาวเมียนมาข้ามแดนมาฝั่งไทยเพิ่มมากขึ้น

โดยทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ,หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 35 ร่วมกับฝ่ายปกครอง อ.แม่ระมาด และ เจ้าหน้าที่ตำรวจประสาน/รวบรวม ผู้ลี้ภัยความไม่สงบฯเข้าพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวฯ บริเวณ สำนักสงฆ์ห้วยปลากอง พร้อมกับให้การช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมสากล




กำลังโหลดความคิดเห็น