เชียงราย - คนผวาน้ำกกปนเปื้อนสารหนูจากเหมืองทองทุนจีนเขตว้าแดง..ทำนักท่องเที่ยวผวาไม่กล้าลงเล่นน้ำทั้งห้วงสงกรานต์-วันหยุดเสาร์/อาทิตย์ กระทบเพิงร้านค้าบนหาดทรายริมน้ำที่เคยคึกคักถึงกับเจ๊ง ต้องยอมทิ้งค่าเช่าม้วนเสื่อกลับกลางคันกันระนาว
สงกรานต์ปีนี้ เพิงร้านค้าบนหาดทรายริมน้ำกกที่เคยได้รับความนิยมจากผู้คนที่พากันไปเล่นน้ำห้วงปี๋ใหม่เมือง รวมถึงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด อย่างบริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำกกบ้านหนองด่าน ต.ดอยฮาง อ.เมืองเชียงราย ซึ่งเคยมีผู้คนไปเล่นน้ำและนั่งตามเพิงร้านค้าต่างๆ ปีนี้แทบจะไม่มีผู้คน
สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากทราบข่าวกรมควบคุมมลพิษตรวจพบว่าน้ำในแม่น้ำกกที่ไหลมาจากรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และเข้าสู่ประเทศไทยที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ จนถึง อ.เมืองเชียงราย มีสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐาน
โดยที่ อ.แม่อายมีปริมาณสารหนูสูงถึง 0.26 มิลลิกรัมต่อลิตร และในเขต อ.เมืองเชียงราย มีปริมาณสารหนู 0.12-0.13 มิลลิกรัมต่อลิตร ขณะที่มาตรฐานความปลอดภัยคือไม่เกิน 0.01 มิลลิกรัมต่อลิตร
ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายเริ่มเก็บข้าวของและบางรายถึงขั้นรื้อร้านเพราะไม่มีนักท่องเที่ยวมากพอ บางคนให้เหตุผลว่าหากยังเปิดร้านอยู่จะทำให้ขาดทุนหนักขึ้น แม้ว่าจะยังคงอยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ไปจนถึงวันหยุดยาว 16 เม.ย.ก็ตาม
นางมอญ ศรีโชติ เจ้าของร้านน้องภูมิ หนึ่งในร้านค้าริมน้ำกกบ้านหนองด่าน กล่าวว่า เดิมมีนักท่องเที่ยวมากันคึกคัก แต่หลังมีข่าวเรื่องสารหนูปนเปื้อนในแม่น้ำกกทำให้ลูกค้าหายไป บางวันมีแค่โต๊ะเดียว บางวัน 3-5 โต๊ะ ทำให้หลายร้านเริ่มปิดตัวลงแล้ว ซึ่งตนก็เริ่มท้อใจ หากในอีก 2-3 วันไม่ดีขึ้นก็คงจะเก็บร้านตามไปด้วย และหากพ้นเทศกาลสงกรานต์ไปแล้วก็คงจะกลับไปเปิดร้านเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว
"ค่าเช่าที่ก็แพงกว่า 50,000 บาท ไม่รวมค่าลงทุนอื่นๆ ขายมาเดือนกว่าแทบไม่ได้อะไร จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือชดเชยบ้าง เพราะพ่อค้าแม่ค้าขายของไปก็ยังไม่ได้ทุนคืนเลย ก่อนหน้านี้มีลูกน้อง พอไม่มีลูกค้าก็ให้ลูกน้องกลับหมด และให้ลูกๆ หลานๆ มาช่วยแทน" นางมอญกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ปัจจุบันที่บ้านฮุงในเขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) ติดกับ จ.เมืองสาด ประเทศเมียนมา ห่างจากชายแดนไทยด้าน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ประมาณ 36 กิโลเมตร มีกลุ่มทุนจีนได้รับสัมปทานจากเขตว้าให้เข้าไปลงทุนทำเหมืองแร่ต่างๆ โดยเฉพาะเหมืองทองคำจำนวนกว่า 23 บริษัท
กระทั่งช่วงเดือน มี.ค. 2568 น้ำในแม่น้ำกกที่ไหลมาจากประเทศเมียนมาเริ่มขุ่น แตกต่างจากทุกๆ ปี ทำให้ชาวบ้านแจ้งกรมควบคุมมลพิษไปตรวจสอบจนพบว่ามีสารหนูเกินมาตรฐาน ซึ่งสารหนูเกิดได้หลายสาเหตุและส่วนหนึ่งเกิดจากการชะล้างหรือถลุงแร่ทองคำ ซึ่งมีสารหนูอยู่ด้วย เมื่อแยกแร่ทองออกแล้วเหลือสารหนูไม่มีระบบป้องกันจึงปล่อยให้ไหลลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติในที่สุด
