เริ่มแล้วสงกรานต์​ตะวันออก พัทยาเล่นน้ำตั้งแต่ยังไม่ถึงวันไหล -​จันทบุรี กวนข้าวทิพย์สืบสานประเพณีโบราณ

ศูนย์ข่าว​ศรี​ราชา​-เริ่มแล้วสงกรานต์​ตะวันออก พัทยา  นักท่องเที่ยวต่างชาติร่วมสาดน้ำสาวบาร์เบียร์ชิมลางก่อนงานวันไหลพัทยา 19 เม.ย. ขณะจันทบุรี เปิดพิธีกวนข้าวทิพย์ตามประเพณีโบราณ ด้านชลบุรี เปิดงานนมัสการพระพุทธสิหิงค์ฯและงานสงกรานต์ ปี 68 ส่วนสระแก้ว รดน้ำขอพรผู้สูงอายุ


โดยบรรยากาศในซอย 7-8 ถนนเลียบชายหาดพัทยา จ.ชลบุรี พบว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ร่วมเล่นสาดน้ำสงกรานต์อย่างสนุกสนานกับผู้ประกอบการบาร์เบียร์ตั้งแต่วันที่11 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ประกอบการ​ได้พากันนำถังน้ำขนาดใหญ่ตั้งบริการหน้าร้าน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เล่นสาดน้ำคลายร้อนกันอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ยังพบว่ามีรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง นำปืนฉีดน้ำและอุปกรณ์เล่นน้ำมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวเพื่อสร้างสีสันให้กับการเล่นสาดน้ำ

ขณะที่งานวันไหลพัทยา จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่น 18 เม.ย.โดยใช้ชื่อว่า วันไหลนาเกลือส่วน และในวันที่ 19 เม.ย.จึงจะเป็นวันไหลพัทยา ที่จะมีการปิดถนนเลียบชายหาดเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินเล่นน้ำกันอย่างสะดวก และคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาร่วมงานมากกว่าหมื่นคน จากนั้นจึงจะเป็นวันไหลสัตหีบ ตามลำดับ



จันทบุรี เปิดงานด้วยการ กวนข้าวทิพย์ ตามประเพณีโบราณ พร้อมสงกรานต์กลางคืนแห่งแรกของไทย

โดยมี นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี​ ที่ได้นำหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น ประชาชนและนักท่องเที่ยว ร่วมทำบุญเสริมสิริมงคลต้อนรับเทศกาลปีใหม่ไทย ซึ่งหนึ่งในไฮไลต์สำ​คัญคือ การกวนข้าวทิพย์ตามประเพณีโบราณ ที่มีการเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนประกอบพิธีเทน้ำผึ้งบริสุทธิ์ลงในกระทะข้าวทิพย์ และจุดไฟเตาเริ่มกวนข้าว 

และมีเด็กสาวพรหมจรรย์จากโรงเรียนขลุงรัชดาภิเษก เป็นผู้เริ่มกวน ก่อนส่งต่อให้ทหาร ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้กวนข้าวมธุปายาส เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ร่วมงาน เป็นสัญลักษณ์ของการแบ่งปันและสืบสานวัฒนธรรมอันงดงามของไทย

ส่วนช่วงค่ำจะมีงาน “สงกรานต์ราตรี วิถีจันท์” ณ ถนนข้าวทิพย์ ซึ่งถือเป็นสงกรานต์กลางคืนแห่งแรกของประเทศไทย โดยเทศบาลเมืองจันทบุรี ร่วมกับ อบจ. ททท. สภ.เมืองจันทบุรี และภาคีเครือข่ายต่างๆ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-13 เม.ย.ของทุกปีภายใต้แนวคิด “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ – อาบน้ำพระจันทร์ Moon Splash Chanthaburi”

กิจกรรมภายในงานยังมีทั้งอุโมงค์น้ำ การเล่นเวฟ สาดน้ำกับบอลลูนพระจันทร์อันเป็นเอกลักษณ์ของจันทบุรี และยังส่งเสริมให้ประชาชนร่วมงานด้วยการแต่งกายด้วยผ้าไทย สะท้อนอัตลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ่น


สระแก้ว สืบสานวันครอบครัว รดน้ำขอพรผู้สูงวัย

และเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา  นางขวัญเรือน เทียนทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสระแก้ว เขต 1 พร้อมด้วย นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว, นายเชาวเนตร ยิ้มประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ข้าราชการและประชาชน ได้ร่วมกันจัดงานประเพณีสงกรานต์สืบสานวันครอบครัว รดน้ำขอพร ผู้สูงวัย

โดย กิจกรรมในครั้งนี้นี้ประกอบด้วย พิธีเจิมและ ปิดทองเสาหลักเมือง การแสดงต้อนรับจากโรงเรียนผู้สูงอายุเทศบาลเมืองสระแก้ว และชมรมผู้สูงอายุบ้านคลอง หมากนัด การมอบรางวัล แก่ผู้สูงอายุผู้ ได้รับการคัดเลือกเป็นตัวอย่าง ของสังคมและการรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ การเยี่ยมชมบูธแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ของโรงเรียนผู้สูงอายุในจังหวัด


ชลบุรี เปิดงานนมัสการพระพุทธสิหิงค์ฯและงานสงกรานต์จังหวัดชลบุรี ประจำปี 2568 
.

และช่วงค่ำวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา  นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน “นมัสการพระพุทธสิหิงค์ฯ และงานสงกรานต์จังหวัดชลบุรี ประจำปี 2568” อย่างเป็นทางการ ณ บริเวณลานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ (ตรงข้ามหอพระพุทธสิหิงค์) อ.เมืองชลบุรี โดยมี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย น.ส.ประภัสรา ศรีทอง นายกเหล่ากาชาดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และชาวชลบุรีเข้าร่วม

โดย งานนมัสการพระพุทธสิหิงค์ฯ และงานสงกรานต์จังหวัดชลบุรี จะขึ้นระหว่างวันที่ 11 – 19 เม.ย.นี้ ถือเป็นงานประจำปีที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อจังหวัดที่ได้จัดติดต่อกันมาแล้วถึง 93 ปี สะท้อนถึงความศรัทธาและความรักในวัฒนธรรมไทยของชาวชลบุรีอย่างลึกซึ้ง ไฮไฮต์ของงานอยู่ที่การจัดแสงสีรอบหอพระพุทธสิหิงค์ อย่างสวยงามเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและประชาชนให้เข้ามากราบไหว้ขอพรพระพุทธสิหิงค์ พระคู่บ้านคู่เมือง จ.ชลบุรีในช่วงเทศกาลสงกรานต์

 นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการประกวดนางสงกรานต์ กิจกรรมเดินแบบผ้าไทย การจัดขบวนแห่สงกรานต์อย่างยิ่งใหญ่ รวมถึง กิจกรรมบันเทิง กีฬา และนิทรรศการส่งเสริมความรู้ เพื่อให้ประชาชนได้รับทั้งสาระ ความสุข และบุญกุศลควบคู่กัน อีกทั้งยังส่งเสริมความสมัครสมานสามัคคีในสังคม และจรรโลงให้เมืองชลบุรีเป็นเมืองแห่งความร่มเย็นอย่างแท้จริงอึกด้วย