นครสวรรค์ – ตำรวจเร่งล่าตัว “ต้นกล้า” ซิ่งเก๋งแดงแข่งกระบะ เสียหลักชนครูเกษียณร่างขาดสองท่อน เสียชีวิตอย่างสยองขณะรอใส่บาตรริมถนนหน้าบ้าน พบมีหมายจับติดตัวอีก 2 ล่าสุด จนท.นำตัวก๊วนปิกอัพบิ๊กเอ็มสอบทั้งคืน อ้างเป็นพลเมืองดี-เจอเหตุ ช่วยเหลือพาส่ง รพ.แต่พบไปไกลถึงอุทัยธานี
ความคืบหน้าคดีแก๊งรถซิ่ง..เก๋งซีวิคสีแดงกับรถกระบะดีแม็กซ์ สภาพแต่งซิ่งทั้งคู่ แข่งขันประลองความเร็วบนท้องถนน แล้วเกิดเสียหลักปาดหน้ากันก่อนรถทั้งสองคันจะพุ่งชนนางรัตนา บุตรประดิษฐ์ หรือครูแม็ก อายุ 82 ปี ครูเกษียณราชการจนจบชีวิตอย่างน่าสยดสยอง ขณะกำลังยืนรอใส่บาตรสามเณรอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านของตัวเองเลขที่ 39/3 หมู่ 8 ต.ตะเคียนเลื่อน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เมื่อเช้าตรู่วันที่ 9 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา
ทางตำรวจคุมตัวนายศุภลักษณ์ พูลเขตกัน อายุ 28 ปี คนขับรถกระบะ ได้ในที่เกิดเหตุ หลังจากมีชาวบ้านช่วยกันจับกุมตัวเอาไว้ จนมีการตรวจสอบแล้วพบว่า มีการเสพสารติดในขณะขับรถ ส่วนคนขับรถเก๋ง ทราบชื่อคือ นายภาณุพงศ์ บุญมา หรือต้นกล้า ใช้ช่วงชุลมุน ขึ้นรถกระบะยี่ห้อนิสสัน บิ๊กเอ็ม นำพาตัวแฟนสาวออกจากจุดเกิดเหตุ โดยอ้างขอให้ช่วยพาไปส่งรักษายังโรงพยาบาล เนื่องจากแฟนสาวได้รับบาดเจ็บที่หลัง
ซึ่งขณะนี้ ยังอยู่ในระหว่างการติดตามไล่ล่าของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากนายต้นกล้า เคยก่อวีรกรรมไว้อย่างโชคโชน อีกทั้ง ยังมีหมายจับติดตัวถึง 2 หมายจับ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้(11 เม.ย.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้มีการนำพยานหลักฐานที่รวบรวมมาประชุมวางแนวทางการสืบสวน ติดตามตัวนายต้นกล้า คนขับรถเก๋งแดง และแฟนสาว ที่ยังหลบหนี โดยมีรายงานว่า เมื่อคืนนี้ ตำรวจสืบสวนได้มีการนำตัวเจ้าของรถกระบะยี่ห้อนิสสัน บิ๊กเอ็ม สีน้ำเงิน พร้อมพรรคพวกอีก 3 คน ซึ่งเป็นผู้ให้การช่วยเหลือนำนายต้นกล้า และแฟนสาวออกจากจุดเกิดเหตุ มาสอบปากคำตลอดทั้งคืน
เบื้องต้น ทั้งหมดให้การอ้างว่า กำลังจะเดินทางไปทำงาน แต่ในระหว่างทาง พบว่ามีอุบัติเหตุ จึงเป็นพลเมืองดีลงไปให้การช่วยเหลือก่อนจะได้รับการร้องขอจากนายต้นกล้า ซึ่งขณะนั้น กำลังพยายามดึงตัวแฟนสาวออกมาจากประตูรถฝั่งคนขับ ให้ช่วยเหลือพาแฟนสาวไปส่งโรงพยาบาล เนื่องจากได้รับบาดเจ็บที่หลัง พร้อมกับร้องขอให้ช่วยเข้าไปหยิบกระเป๋าในรถ ซึ่งมีเอกสารอยู่ภายใน เอาออกไปด้วย จึงรีบให้การช่วยเหลือนำตัวไปส่งรักษายังโรงพยายาบาลทันที
อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากทั้งหมดให้การอ้างว่า นำตัวนายต้นกล้าและแฟนสาวส่งไปรักษาไกลถึงโรงพยาบาลในจังหวัดอุทัยธานี แทนที่จะเป็นโรงพยาบาลในเขตเมืองนครสวรรค์ แต่ตรงจุดนี้ ทั้งหมดระบุว่า แฟนสาวของนายต้นกล้าเจ็บจริงจนถึงขั้นหลังหัก
ขณะที่ พ.ต.อ.เสฎฐวุฒิ รอดจันทร์ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ กล่าวว่า ตำรวจชุดสืบสวนยังคงทำงานต่อเนื่องตั้งแต่วันเกิดเหตุ เมื่อคืนก็ระดมกำลังปฏิบัติงานตลอดทั้งคืน คาดว่าจะสามารถติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้ในเร็ววันนี้ ส่วนนายศุภลักษณ์ คนขับรถกระบะ ที่ถูกจับกุมตัวก่อนหน้านี้ ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาไว้ก่อนแล้ว 2 ข้อหา ฐานขับรถประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และขับรถไม่คำนึงขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ซึ่งในส่วนของการตรวจพบสารเสพติดในร่างกายของนายศุภลักษณ์นั้น จะต้องรอผลตรวจจากแพทย์ออกมาเป็นทางการก่อน ถึงจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปจุดที่ของนางรัตนา หรือครูแม็ก ที่ต้องมาจบชีวิตอย่างน่าสลดอีกครั้ง พบกับนายนิสิต บุตรประดิษฐ์ อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นลูกชายคนเล็ก ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมเดินทางมาขอข้อมูลเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด พร้อมกับแจ้งสิทธิในการให้ความช่วยเหลือกรณีที่ต้องตกเป็นเหยื่อจากอุบัติเหตุ
ส่วนเรื่องคดี ก็ทราบจากตำรวจเช่นกันว่า มีการนำตัวกลุ่มคนที่อยู่ในรถกระบะที่ขับตามมาช่วยเหลือคนขับรถเก๋งและแฟนสาวออกจากจุดที่เกิดเหตุ มาสอบปากคำทั้งหมดแล้ว และให้การอ้างว่า เป็นพลเมืองดีที่ผ่านมาและให้การช่วยเหลือเท่านั้น ซึ่งในเรื่องนี้ ส่วนตัวตนดูแล้ว ไม่เชื่อว่าจะจริงตามคำที่กล่าวอ้าง เพราะดูจากเวลา กลุ่มพวกนี้มาถึงเร็วมาก แถมยังมาก่อนชาวบ้าน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เสียอีก แต่สุดท้าย ก็ต้องปล่อยให้ทางตำรวจเขาดำเนินการอยู่ดี
ขณะเดียวกัน ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ “ปัทวี รอดศิริ” ออกมาแสดงตัว ด้วยการโพสต์ระบุว่า ตนเองเป็นหนึ่งในผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปช่วยเหลือนายต้นกล้าและแฟนสาวในวัดเกิดเหตุ โดยการหยิบหมวกกันน็อกที่บรรจุสิ่งของที่อยู่ภายในรถออกมา โดยระบุข้อความว่า “ผมไม่ได้พยามปกป้อง คนทำผิดหรือช่วยเหลืออะไรทั้งนั้น ตัวผมก็ไม่ได้นั่งรถคันนั่นมา แต่ผมได้รับสายโทรศัพท์ ขอความช่วยเหลือ ให้รีบไปตรงนั้น และให้เข้าไปหยิบของในรถหลายอย่างแต่พี่กู้ภัยในภาพก็ห้ามไม่ให้ผมเอาออกก่อนตำรวจมา ผมก็เอาเก็บเข้าไปโยนในรถครับ ทำไมไม่เอาภาพตอนเดินกับไปเก็บคืนมาด้วย ตัวผมตกใจ และเครียดมาก แต่ผมโทรแจ้งไปแล้วพรุ่งนี้ผมจะเข้าไป สอบปากคำ ความจริงอย่างชัดเจน บริสุทธิ์ใจครับ”
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า จากการตรวจสอบประวัติของนายต้นกล้า พบว่ามีหมายจับติดตัวถึง 2 คดี เป็นคดียาเสพติดเมื่อปี 2558 ซึ่งถูกจับกุมได้พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 70 เม็ด ส่วนอีกคดี พบว่า เป็นคดีไปก่อเหตุชนแล้วหนี ในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี ซึ่งทั้ง 2 หมายจับนี้ นายต้นกล้าหนีการประกันตัว จนกระทั่งมาก่อเหตุซิ่งแข่งรถชนนางรัตนาจนจบชีวิต และยังคงอยู่ในระหว่างการติดตามไล่ล่าตัวของตำรวจนครสวรรค์
