พิจิตร - พาณิชย์ สหกรณ์การเกษตร สภาเกษตรกร เกษตรจังหวัดฯ ดึงโรงสีเปิดตลาดนัดรับซื้อข้าวเปลือกก่อนสงกรานต์แพงกว่าตลาด ความชื้น 25% ให้เกวียนละ 6,500, 15% เกวียนละ 7,600 บาท แถมจ่ายสด-ช่วยค่าขนอีก
สถานการณ์ราคาข้าวเปลือก ณ ขณะนี้ยังคงต่ำเตี้ยเรี่ยพื้น ข้าวเกี่ยวสดความชื้น 25% ท่าข้าว-โรงสีต่างๆ รับซื้อกันที่เกวียนละประมาณ 6,000 บาทเท่านั้น ทำให้เกษตรกรชาวนาเดือดร้อนกันทั่ว ล่าสุดพาณิชย์จังหวัดพิจิตร ได้ดำเนินโครงการตลาดนัดข้าวเปลือกจังหวัดพิจิตรขึ้นระหว่าง 8-10 เมษายนนี้
บูรณาการร่วมกับภาคเอกชน คือเจ้าของโรงสี บริษัท ทีบีเอสไรซ์มิลล์ จำกัด, บริษัท ธนสรรไรส์ จำกัด ซึ่งเป็นโรงสีใหญ่ได้มาตรฐาน รวมถึงสหกรณ์การเกษตรของจังหวัดพิจิตร ตลาดนัดรับซื้อข้าวนาปรังครั้งนี้ที่ตลาดกลางผลิตผลการเกษตร สหกรณ์การเกษตรเมืองพิจิตร จำกัด ต.ท่าหลวง อ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร และที่สหกรณ์การเกษตรโพทะเล
รับซื้อข้าวราคาสูงกว่าตลาด เฉลี่ยตันละ 200 บาท และช่วยค่ารถบรรทุกข้าวเปลือกที่นำมาขายในโครงการตลาดนัดอีก 200-300 บาท โดยข้าวเกี่ยวสด ความชื้นไม่เกิน 25% จะรับซื้อที่ราคา 6,500 บาท/ตัน (ท่าข้าว-โรงสีทั่วไปซื้อข้าวเกี่ยวสดอยู่ที่ประมาณ 6,000บาท เท่านั้น) ถ้าเป็นข้าวแห้งความชื้น15% จะรับซื้อที่ราคา 7,600 บาท/ตัน (ท่าข้าว-โรงสีทั่วไปซื้อข้าวแห้ง15%อยู่ที่ประมาณ 7,000 บาทเศษเท่านั้น)
นางสาวธนียา นัยพินิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยนายรณรงค์ สิทธิเขตกรณ์ ปลัดจังหวัดพิจิตร นางวิมล เจริญฤทธิ์ พาณิชย์จังหวัดพิจิตร, นายธวัชชัย ทัดเที่ยง ประธานสภาเกษตรจังหวัดพิจิตรและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งลงพื้นที่กำกับดูแลและตรวจเยี่ยมตลาดนัดข้าวเปลือกจังหวัดพิจิตร
วันแรกพบว่าตลาดนัดสหกรณ์เมืองพิจิตรมีชาวนาจาก ต.ท่าหลวง ต.ฆะมัง ต.หัวดง ต.คลองคะเชนทร์ ต.เมืองเก่า ต.บ้านบุ่ง ต.สายคำโห้ ที่ทราบข่าวต่างขนข้าวเปลือกมาขายกันอย่างคึกคัก เพราะตลาดนัดข้าวแห่งนี้ซื้อขายด้วยเงินสด รวมถึงก่อนเทศกาลสงกรานต์โรงสีหลายแห่งเริ่มประกาศหยุดรับซื้อ หยุดให้คนงานเล่นน้ำสงกรานต์และเดินทางกลับบ้าน รวมถึงจะหยุดโรงสีในช่วง 12-17 เม.ย. 68 จึงทำให้ชาวนาเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิต เพราะต้องการใช้เงินช่วงสงกรานต์เช่นกัน ซึ่งข้าวที่นำมาขายส่วนใหญ่เป็นข้าวสายพันธุ์ กข. ที่มีอายุการปลูก 100 กว่าวันนั่นเอง
นางสาวธนียา นัยพินิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพิจิตร บูรณาการร่วมกับภาคเอกชน มาร่วมด้วยช่วยกันรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกร โดยจัดเป็นลักษณะตลาดนัด 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 8-10 เมษายน 68 รับซื้อข้าวในราคาที่สูงกว่าตลาด
ซึ่งก็ทำให้เกษตรกรพอใจ ขายข้าวในราคาที่ดีกว่าท้องตลาด ขายแล้วจ่ายเลย สามารถนําเงินไปใช้ได้ก่อนเทศกาลสงกรานต์ด้วย วันแรกจุดรับซื้อทั้งสองแห่ง คือ สหกรณ์เมืองพิจิตรกับสหกรณ์โพทะเล มีเกษตรกรนำรถบรรทุกข้าวมาขาย 110 คัน ปริมาณข้าว 750 ตัน วงเงินรับซื้อ 4,572,000 บาท
พร้อมกันนี้ ได้ฝากเน้นย้ำเกษตรกรว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่พี่น้องเกษตรกรเกี่ยวข้าว ถ้าเก็บให้แห้งได้ก็จะได้ราคาดี แล้วถ้าจะต้องขายข้าวก็ขอให้ตรวจสอบเครดิตของโรงสีหรือท่าข้าวต่างๆ จากผู้นำชุมชน สนง.พาณิชย์ สนง.เกษตร สนง.สภาเกษตรฯ รวมถึงกํานัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้นําชุมชนในท้องถิ่นท้องที่ก่อน ว่าที่ไหนดี-ที่ไหนซื้อขายด้วยเงินสด เพื่อป้องกันไม่ให้ท่าข้าวหรือโรงสีโกงชาวนา ซึ่งพิจิตรเกิดขึ้นหลายรายแล้ว แม้จะดำเนินคดีจนถูกติดคุกติดตะรางก็ยังไม่เข็ดหลาบ เก่าไปใหม่มาเป็นแบบนี้วนไปวนมา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่งและไม่อยากให้เกิดขึ้นซ้ำอีก