อุดรธานี - 11 วันของการรอคอย...มันนานเหมือนสิบปีร้อยปี! พ่อจุดธูปขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ทีมค้นหาผู้สูญหายเหตุตึก สตง.ถล่ม พบลูกชาย จะเป็นหรือตายก็ขอให้เจอ เริ่มทำใจได้บ้างแล้ว ด้านแม่หวังให้เกิดปาฏิหาริย์เจอลูก 10 เมษายนนี้ตามที่ลูกบอกจะกลับฉลองสงกรานต์ หากรอดจะให้ลูกชายบวชและจัดงานแต่งให้
กรณีแผ่นดินไหวจากจุดศูนย์กลางเมียนมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ส่งผลกระทบสะเทือนถึงประเทศไทย ทำให้อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่กำลังก่อสร้างถล่มทรุดลงในพริบตา ทำให้มีแรงงานที่กำลังก่อสร้างเสียชีวิต บาดเจ็บ และยังสูญหายอีกจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายโดยระดมใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ ทั้งหัวขุดเจาะ หัวตัดถ่าง เร่งรื้อถอนซากปรักหักพังของอาคารเพื่อค้นหา
ขณะที่พ่อแม่ญาติพี่น้องผู้สูญหายใจแทบขาด ต่างเฝ้ารอว่าทีมกู้ภัยจะพบผู้สูญหายโดยเร็ว แม้การค้นหาจะผ่านมา 11 วันแล้ว
ล่าสุดวันนี้ (7 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านนาสีนวล ต.ตาลเลียน อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของนายเอนกพงศ์ กงไสยา หรือต๊ะ อายุ 23 ปี หนึ่งในแรงงานที่ยังสูญหายและคงติดอยู่ในซากตึก เพื่อให้กำลังใจพ่อกับแม่ที่จดจ่อเฝ้ารอฟังข่าวของลูกชาย โดยพบว่าที่บ้านมีการนำเต็นท์มากาง นำเก้าอี้มาวาง รองรับคนทั้งจากส่วนราชการและคนรู้จักมาเยี่ยมให้กำลังใจ ซึ่งพ่อกับแม่นั่งดูรูปถ่ายเมื่อครั้งลูกชายและแฟนสาวกลับมาตอนสงกรานต์ปีก่อน
ทั้งคู่ได้ขอขมาและรดน้ำขอพรเนื่องในวันปีใหม่ไทย ก่อนจะเดินทางไปทำงานหาเงินมาแต่งงานกัน นอกจากนี้ยังมีภาพถ่ายสุดท้ายขณะลูกชายประชุมงานกันในตึก สตง.
นายสมพงษ์ กับนางสงกรานต์ กงไสยา พ่อและแม่นายเอนกพงศ์ เล่าว่า ย้อนกลับไปช่วงวันที่เกิดเหตุหลังรู้ข่าวก็รีบเดินทางลงไปติดตามข่าวด้วยตัวเองที่กรุงเทพมหานคร เฝ้ารอติดตามข่าวอยู่ที่นั่น 7-8 วัน และเพิ่งเดินทางกลับมาเมื่อวาน ก่อนกลับมาเจ้าหน้าที่ฯ ได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไว้ ตอนนี้ก็ได้แต่รอฟังข่าวอยู่ทางบ้าน
ล่าสุดที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยกู้ร่างคนขึ้นมาได้ 3 ศพนั้น หัวหน้างานของน้องแจ้งมาว่าตรวจสอบแล้วไม่ใช่ต๊ะ เท่าที่รู้เป็นแรงงานชาวพม่า หลังเวลาผ่านไป 11 กว่าวัน ตอนนี้ตนก็ยังรอและมีความหวังว่าลูกชายจะยังมีชีวิตอยู่ แต่หากเสียชีวิตแล้วก็อยากจะนำศพกลับบ้านเพื่อบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
“ตอนนี้ได้แต่ขอพรพระและภาวนาขอให้ได้ลูกชายกลับมาบ้าน จะมีชีวิตหรือเสียชีวิตก็ตามตอนนี้ผมก็รับได้” สำหรับต๊ะ ได้วางแผนอนาคตไว้เมื่อครั้งเจอกัน เขาบอกว่าจะกลับบ้านในวันที่ 10 เมษายนนี้ จากนั้นเขาก็จะแต่งงานกับแฟนสาว” นายสมพงษ์เล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือน้ำตาคลอเบ้า
ขณะที่แม่กล่าวเสริมว่า ลูกบอกว่าจะกลับมาแต่งงาน ขอให้แม่ช่วยเตรียมรถและจัดหาผู้ใหญ่พาไปสู่ขอเมีย ตอนนี้มีความเชื่อว่าวันที่ 10 เมษายนนี้ทีมกู้ภัยจะพบลูกชาย ตนก็เฝ้ารอแต่ปาฏิหาริย์ว่าจะเกิดขึ้นไหมอย่างไรก็ดี หากลูกชายกลับมาแบบมีชีวิตจะให้ลูกชายบวช จากนั้นก็จะจัดงานแต่งให้ ซึ่งตอนนี้ตนก็ยังมีความหวัง "หวังว่าลูกชายจะหลบซ่อนตัวอยู่ในโพรงใต้ซอกตึก"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นักข่าวลงพื้นที่เป็นจังหวะที่นายสมพงษ์ ผู้เป็นพ่อกำลังจะไปไหว้พระขอพรกับหลวงปู่ขาว ณ วัดบ้านนาสีนวล จึงขอติดตามไปสังเกตการณ์ โดยนายสมพงษ์ได้ทำการจุดธูป 9 ดอกและกล่าวขอพรต่อหน้าพระ โดยขอบารมีให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเบิกทางให้เจอนายอเนกพงศ์โดยเร็ว