xs
xsm
sm
md
lg

ฝันเห็นคนตาย 3 คืนติด ก่อนเที่ยงวันรุ่งขึ้นหลานชายถูกตึก สตง.ถล่มทับ ติดอยู่ใต้ซาก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “หยวก” หนุ่มขอนแก่นวัย 26 ปีเป็นอีกหนึ่งในผู้สูญหายติดอยู่ใต้อาคาร สตง.ทรุดถล่ม เผยทำงานเป็นช่างเดินระบบไฟในตัวอาคารมาแล้ว 5 เดือน ขณะที่น้าสาวบอกก่อนเกิดเหตุฝันติดกัน 3 คืน เห็นตา ยาย และแม่ของหลานที่ตายไปแล้วพากันกลับมาอยู่บ้าน เตรียมเดินทางไปที่หน้าไซต์งานรอแสดงตัวเป็นญาติหากเจ้าหน้าที่ค้นเจอร่างของหลานชาย


นายอนุพล เกตุภูเขียว หรือ “หยวก” อายุ 26 ปี ชาวบ้านวังทอง ต.วังเพิ่ม อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น เป็นอีกหนึ่งในบรรดาผู้สูญหายติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พังถล่มจากแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา หยวกทำงานเป็นช่างไฟฟ้าเดินระบบไฟภายในตัวอาคาร หลังเกิดเหตุอาคารถล่มครอบครัวไม่สามารถติดต่อกับเขาได้อีก ผ่านมาแล้ว 5 วันแต่ละคนในบ้านกินไม่ได้นอนไม่หลับ สงสารและเป็นห่วงหยวกว่าบาดเจ็บหรือปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน

นางสาวชัยประชา สุแพง อายุ 48 ปี น้าสาวของหยวก เล่าว่า หลานชายเติบโตมากับตา ยาย ป้า และน้า เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกัน แม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อโตขึ้นได้เรียนการศึกษานอกระบบ (กศน.) จนจบระดับมัธยมศึกษาตอนต้น แล้วออกหางานทำ ก่อนจะรู้จักกับผู้รับเหมารายหนึ่ง และเดินทางทำงานไปตามโครงการก่อสร้างต่างๆ ล่าสุดทำงานเป็นช่างไฟฟ้าในอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินที่เกิดเหตุมาได้ประมาณ 5 เดือน


โดยปกติแล้วหลานชายคนนี้ไม่ค่อยโทรศัพท์กลับบ้านบ่อยนัก ส่วนใหญ่จะพูดคุยเรื่องการค้าขาย และเคยบอกว่าจะตั้งใจทำงาน เก็บเงินหาทุนซื้อรถยนต์แล้วจะกลับมาอยู่บ้าน จะได้ขับรถพาน้าสาวไปขายกับข้าวตามหมู่บ้านต่างๆ

นางสาวชัยประชาเล่าอีกว่า ก่อนเกิดเหตุแผ่นดินไหว ตนฝันเห็นญาติที่ตายไปแล้ว ในฝันมีทั้งตา ยาย และแม่ของหยวกซึ่งกลับมาที่บ้านติดต่อกัน 3 คืน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร คิดในแง่ดีขอโชคขอตัวเลขอย่างเดียว ไม่อยากจะคิดไปในทางที่เป็นลางร้าย ขณะเดียวกัน พี่สาวคนโตซึ่งเป็นป้าของหยวกก็ฝันเห็นญาติผู้ใหญ่ที่เสียชีวิตไปแล้วกลับมาหาที่บ้านเช่นกัน จึงพูดคุยกันว่าอาจเป็นลางไม่ดี กระทั่งเช้าวันที่ 28 มีนาคม เวลา 10.00 น. หลานชายนายหยวกโทรศัพท์มาหา พูดคุยตามปกติ ก่อนวางสายไป


แต่ช่วงบ่ายหัวหน้างานของนายอนุพลได้โทร.มาแจ้งว่า อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินถล่ม และนายอนุพลซึ่งทำงานอยู่ภายในอาคารขณะนั้นยังไม่ทราบชะตากรรม จนถึงขณะนี้ยังคงหาตัวไม่พบ ครอบครัวจึงตั้งใจเตรียมเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปยังจุดอำนวยการค้นหาผู้สูญหายจากอาคารถล่มเพื่อเฝ้ารอข่าวของนายอนุพล หากพบว่าเสียชีวิตจริงก็ต้องการนำร่างกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้าน พร้อมขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในเรื่องการนำศพกลับบ้านและการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดพิธีทางศาสนา

เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน ตอนนี้ทุกคนในบ้านพยายามทำใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เวลาล่วงเลยผ่านมา 4-5 วันแล้วยังค้นหาตัวไม่เจอ


กำลังโหลดความคิดเห็น