ศูนย์ข่าวขอนแก่น - หน่วยงานราชการและครอบครัวชาว อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น จัดสถานที่เตรียมรอรับศพน้องฟาส ผู้เสียชีวิตตึก สตง.ถล่ม แต่ล่าสุดร่างที่พบตรวจดีเอ็นเอไม่ตรงกัน ครอบครัวยังมีความหวังแม้ริบหรี่ ด้านตาเผยเลี้ยงหลานมาตั้งแต่เด็ก หลานไปทำงานเป็นช่างไฟ หวังเก็บเงินแต่งงานสงกรานต์นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 370 บ้านโคกม่วง หมู่ 8 ต.ขัวเรียง อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของหนึ่งในครอบครัวผู้สูญหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว คือนายเจษฎา ส่อนชัย หรือน้องฟาส อายุ 21 ปี ขณะเกิดเหตุทำงานเป็นช่างไฟฟ้าอยู่บนชั้น 27 โดยหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ให้กำลังใจครอบครัว พร้อมทั้งได้จัดสถานที่รอรับร่างน้องฟาสมาที่บ้าน หลังจากได้ข้อมูลว่าเสียชีวิต ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้าของครอบครัวญาติพี่น้องที่ทราบข่าว
แต่ล่าสุดฝ่ายปกครองได้ลงพื้นที่แจ้งข้อมูลกับครอบครัวว่ายังไม่ยืนยันว่าศพที่พบนั้นเป็นร่างของน้องฟาส เนื่องจากผลตรวจดีเอ็นเอยืนยันล่าสุดยังไม่ตรงกับญาติที่ไปรับศพ โดยตรงกับผลตรวจดีเอ็นเอกับครอบครัวชาว จ.อุดรธานี ซึ่งได้รับศพกลับไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งข้อมูลครั้งแรกที่ได้รับมานั้น เนื่องจากทุกคนใส่ชุดฟอร์มทำงานเหมือนกัน ทำให้ครอบครัวตอนนี้ยังพอมีหวังว่าน้องฟาสจะรอดชีวิต แม้จะมีหวังเพียงริบหรี่ก็ตาม
นายอำไพ หมวดเหม็น อายุ 78 ปี อยู่บ้านเลขที่ 370 ม.8 ตาของน้องฟาสผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่าหลานชายตนไปทำงานได้ประมาณปีเศษ บางครั้งก็มาขอเงินตากับแม่ครั้งละพันสองพัน โดยหลานไปทำงานเก็บเงินไว้กับพ่อตาแม่ยาย เหตุการณ์ตึกถล่มครั้งนี้พ่อตาแม่ยายก็สูญหายเช่นกัน เพื่อจะนำเงินไปเป็นค่าสินสอดแต่งงาน และตั้งใจจะกลับมาบ้านช่วงสงกรานต์ที่จะถึงนี้ และมาเกณฑ์ทหารพร้อมกับจัดงานแต่งงานขึ้น หลังจากน้องฟาสไปทำงานที่ กทม. ตนก็อยู่กับหลานอีกสองคน ซึ่งเป็นน้องแท้ๆ ของน้องฟาส
พ่อแม่ของหลานแยกทางกันตั้งแต่หลานยังเด็ก ตนเป็นคนเลี้ยงดูจนกระทั่งหลานเข้าสู่วัยทำงานและไปทำงานเป็นช่างไฟที่ชั้น 27 ได้ปีเศษเพื่อหาเงินแต่งงาน ตนได้ทราบข่าวดังกล่าวขึ้นในช่วงบ่ายวันที่ 28 มี.ค. และติดต่อหาหลานไม่ได้ หากหลานเสียชีวิตตนที่เลี้ยงดูมาก็รู้สึกเสียดายอนาคตหลาน เพราะเป็นคนเรียนหนังสือเก่ง เหล้าไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ ทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนตั้งแต่เด็ก ทำงานร้านอาหาร กระทั่งไปสมัครงานเป็นช่างไฟทำงานที่ตึก สตง.ชั้น 27 พร้อมกับเรียนหนังสือไปด้วย
หลานมีความฝันอยากรับราชการ และเรียนจบจะไปสอบเป็นข้าราชการเกี่ยวกับด้านบัญชี ตอนนี้แม่ของหลานกำลังเดินทางไปรับร่างหลานกลับมา อยากให้หน่วยงานช่วยเหลือด้านการศึกษาของหลานๆ ที่เหลือ เพราะฟาสเป็นเสาหลักให้น้องๆ ป.4 และ ม.3 ได้อาศัยในอนาคต
ด้านนายสมคิด ชำนิกุล ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอชุมแพ เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดเหตุทางนายอำเภอชุมแพได้สั่งให้ออกสำรวจแต่ละหมู่บ้านในพื้นที่ อ.ชุมแพ ว่ามีใครได้รับความสูญเสียจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวบ้าง และพบว่ามีผู้เสียชีวิต 3 ราย จึงได้ลงพื้นที่พร้อมกับมอบเงินเป็นกำลังใจ 3,000 บาท และสิ่งของถุงยังชีพ โดยขณะนี้ทางญาติกำลังติดต่อหาร่างที่โรงพยาบาลตำรวจ นำกลับมาที่บ้าน
ล่าสุดทางญาติแจ้งกลับมาว่าผลตรวจ DNA ของแม่และศพที่พบไม่ตรงกัน โดยพบว่าศพที่พบเป็นชาวอุดรธานี ญาติรับศพกลับไปแล้ว ทำให้ตอนนี้ยังไม่พบร่างของน้องฟาส และยังไม่ยืนยันการเสียชีวิต ทำให้ยังมีความหวังอยู่ว่าน้องฟาสจะรอดชีวิตจากเหตุดังกล่าว
นอกจากครอบครัวของน้องฟาสแล้ว ยังพบว่ามีชาวอำเภอชุมแพอีกสองรายยังไม่พบร่าง คาดว่าติดอยู่ภายในตึกอาคาร สตง.ขณะกำลังทำงานด้วยเช่นกัน เป็นสองสามี-ภรรยา ชาวชุมชนพรานราษฎร์ ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ และเป็นพ่อตา แม่ยายของน้องฟาส คือนายดำรงค์ ผ่องลุนหิต อายุ 40 ปี และนางสาวอรอุมา แก่นเมือง อายุ 33 ปี ซึ่งทั้งสามรายยังอยู่ระหว่างการค้นหา
