แม่ฮ่องสอน - แผ่นดินไหวเมียนมา-อาฟเตอร์ช็อกซ้ำต่อเนื่องไม่กระทบอาคาร-โบราณสถานแม่ฮ่องสอน “พระธาตุดอยกองมู” ไม่มีร้าว แต่สภาพอากาศที่ย่ำแย่หนัก ฝุ่นหมอกควันไฟป่าคลุมเมืองแน่น เห็นไกลแค่ 2-3 กิโลฯ
หลังรอยเลื่อนสะกายเขย่า-แผ่นดินไหวในเมียนมา รุนแรงสุด 8.2 เมื่อบ่ายวันที่ 28 มีนาคม 2568 และเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาต่อเนื่อง “แม่ฮ่องสอน” ซึ่งอยู่ใกล้กับศูนย์กลางมากที่สุด รวมทั้งเกิดแผ่นดินไหวซ้ำในพื้นที่อำเภอปายอีกหลายครั้งด้วยนั้น พบว่าจุดที่น่าเป็นห่วงมากคือที่วัดพระธาตุดอยกองมู ซึ่งเป็นโบราณสถานคู่บ้านคู่เมืองแม่ฮ่องสอน ล่าสุดก็ยังไม่พบรอยร้าวหรือความเสียหายอื่นๆ
ส่วนอาคารสูงในแม่ฮ่องสอนนั้นก็ไม่พบการแตกร้าวหรือส่งผลกระทบแต่อย่างใด เนื่องจากอาคารสูงจะมีได้ไม่เกิน 4 ชั้นเท่านั้น เป็นไปตามมาตรการของสำนักงานโยธาธิการจังหวัด ที่กำหนดการก่อสร้างของพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนไว้เพื่อความปลอดภัย เพราะแต่ละอาคารแทบจะไม่สามารถตอกเสาเข็มได้เลย
ที่เสียหายเล็กน้อยก็จะมีแต่อาคารของแหล่งท่องเที่ยวปายแคนยอน หรือกองแลน ที่พังลงมา แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด และอาคารของโรงพยาบาลสบเมย ที่เกิดการแยกตัวที่บริเวณรอยต่อหน้าอาคารเพียงเล็กน้อย ซึ่งในขณะนี้ทางอำเภอได้กันพื้นที่ห้ามใช้ไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย
แต่ปัญหาหนึ่งที่พบในแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทั้งในอำเภอปายและอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ก็คือ น้ำพุร้อนไทรงาม และที่อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ ที่ต้องประกาศปิดชั่วคราว เพราะเกิดปัญหาน้ำขุ่นข้นมากผิดปกติ โดยเฉพาะที่อุทยานแห่งชาติถ้ำปลานั้นสีของน้ำขุ่นข้นจนไม่สามารถมองเห็นปลาได้เลย นอกจากนี้ ปริมาณน้ำที่เคยไหลผ่านถ้ำออกมาภายนอกก็ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทางอุทยานฯ ได้ติดป้ายงดการเข้าเที่ยวชมไว้ก่อนจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
ขณะที่ปัญหาหนักของแม่ฮ่องสอนจนถึงวันนี้ (30 มี.ค.) ก็คือ หมอกควันปกคลุมตัวเมืองหนาแน่น ผู้คนต้องหาซื้อหน้ากากอนามัย N95 มาสวมใส่ช่วงที่ต้องออกจากบ้านหรือเดินทางไปทำงาน ส่วนผู้ที่ไม่จำเป็นต้องเดินทาง-ออกจากบ้าน ก็มีประกาศแจ้งเตือนให้อยู่แต่ภายในอาคาร งดการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งเพื่อความปลอดภัย จากการสำรวจไปตามถนนสายต่างๆ หรือตามพื้นที่รอบนอกก็จะพบว่าหมอกควันที่ปกคลุมนั้นส่งผลให้ทัศนวิสัยเหลือเพียง 2-3 กิโลเมตรเท่านั้นเอง