xs
xsm
sm
md
lg

หลานโวย! รพ.ที่บุรีรัมย์ส่งต่อยายตรวจสแกนแล้วปล่อยทิ้ง อ้างจำหน่ายแล้ว ทั้งที่อยู่ในชุดผู้ป่วยเข็มน้ำเกลือเต็มแขน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์- หลานโพสต์โวย รพ.ประจำอำเภอที่ จ.บุรีรัมย์ ส่งต่อยายวัย 71 ที่เข้ารักษาด้วยอาการเจ็บชายโครงเวลาหายใจ ไปตรวจสแกนหาสาเหตุโรคที่ รพ.ในตัวจังหวัดระยะทาง 30 กม. แล้วปล่อยทิ้งอดข้าวหลาย ชม.ไม่รับกลับ อ้างจำหน่ายออกแล้วทั้งที่ยังอยู่ในชุดผู้ป่วยของรพ.เข็มน้ำเกลือเต็มแขน จี้ปรับปรุงแก้ไข ด้าน สสจ.บุรีรัมย์ แจงเกิดจากการสื่อสารผิดพลาดพร้อมขอโทษและกำชับปรับปรุงการสื่อสารบริการให้ดีขึ้น

วันนี้ ( 28 มี.ค.) กรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Weerayut Sirireuengpra” ได้โพส์ตภาพคุณยายสวมใส่ชุดคนไข้ของโรงพยาบาลแขนข้างซ้าย ยังมีป้ายชื่อผู้ป่วย แขนข้างขวายังมีเข็มสำหรับให้น้ำเกลือคาอยู่ พร้อมระบุข้อความว่า “โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในอำเภอกระสัง เนื่องจากคุณยายของผมได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าว แต่เนื่องจากคุณหมอยังไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ จึงได้แจ้งกับญาติว่า ต้องส่งตัวคุณยายไปสแกนคอมพิวเตอร์ โดยการสแกนอุโมงค์ ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ทางญาติก็เข้าใจว่าโรงพยาบาลดังกล่าว จะส่งตัวไปสแกนแล้วก็รับกลับ แต่ปรากฏว่า โรงพยาบาลดังกล่าวได้นำตัวคุณยายไปส่งที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ แล้วก็กลับเลย ไม่ได้มีการรอรับคุณยายกลับแต่อย่างใด


ญาติจึงได้ติดต่อสอบถามไปที่โรงพยาบาลดังกล่าว เจ้าหน้าที่แจ้งว่า โรงพยาบาลดังกล่าวได้จำหน่ายคุณยายออกจากโรงพยาบาลแล้ว และไม่มีรถว่างที่จะไปรับ การไปส่งตัวไม่ใช่หน้าที่ของโรงพยาบาลดังกล่าว เป็นเพียงการอำนวยความสะดวกเท่านั้น เหตุใด ทำไมโรงพยาบาลดังกล่าวไม่แจ้งญาติให้ชัดเจนแต่แรกว่า ได้จำหน่ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลแล้ว ให้ผู้ป่วยไปดำเนินการรักษาเองที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ญาติจะได้วางแผนการรับส่งได้ถูกต้อง ไม่ใช่แจ้งว่าจะส่งตัวไปตรวจที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ แต่สุดท้ายแล้วโดนทิ้งให้อยู่ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์

นายวีรยุทธ ศิริเรืองประภา หลายของยายผู้ป่วย
อีกทั้ง การจำหน่ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล เป็นแบบนี้หรอครับ ในมือยังมีเข็มน้ำเกลือและมีสายอยู่ ยังใส่ชุดโรงพยาบาลอยู่ ผมจึงได้ไปรับคุณยายที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์เอง แล้วถ้าในกรณีผู้ป่วยคนอื่น ที่ไม่มีรถในการไปรับหรือไม่มีญาติที่จะไปรับ เขาต้องทำยังไงครับ ทั้งชุดโรงพยาบาลที่ใส่อยู่ ทั้งสายน้ำเกลือเต็มแขน ต้องทำยังไงครับ ผมเข้าใจการทำหน้าที่ของบุคลากรในโรงพยาบาลมากๆ แต่เมื่อได้มีการสอบถาม กลับได้คำตอบที่ไม่น่ารักเท่าไหร่ ผมต้องขอใช้สิทธิ์ในการร้องเรียนโรงพยาบาลแห่งนี้ต่อไปครับ”


จากนั้นทีมข่าวได้ติดต่อไปยังผู้โพสต์เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง โดยผู้โพสต์เรื่องราวดังกล่าว คือ นายวีรยุทธ ศิริเรืองประภา อาชีพทนายความซึ่งเป็นหลานของยาย บอกว่า สาเหตุที่โพสต์เรื่องราวดังกล่าว เพราะรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้ต้องการให้ รพ.รับผิดชอบ แต่อยากให้ปรับปรุงแก้ไขทั้งเรื่องการสื่อสารให้เกิดความชัดเจนมากกว่านี้ รวมถึงการบริการส่งต่อผู้ป่วยควรจะมีการประสานงานกับ รพ.อีกแห่ง และแจ้งญาติให้เข้าใจว่ารถ รพ.ต้นทางจะต้องรับผู้ป่วยกลับมาด้วยหรือไม่ หรือต้องให้ญาติไปรับเอง จะได้มีการวางแผนในการไปส่งไปรับ


อีกทั้ง พอไปส่งยายไว้ที่ รพ.ในตัวจังหวัดแล้ว ยายก็ไม่ได้ตรวจสแกน แค่ให้ทำบัตรในระบบใหม่ แล้วก็ให้ใบนัดมาตรวจสแกนวันหลัง ทำให้คุณยายซึ่งอายุ 71 ปีแล้ว ต้องอดข้าวตั้งแต่เช้าจนถึงบ่ายเพราะคิดว่าต้องเข้าสแกน แล้วแม่ซึ่งไปเฝ้าคุณยายก็ต้องอดข้าวไปด้วย ที่สำคัญเมื่อไปสอบถาม รพ.ต้นทางกลับได้รับคำตอบว่าจำหน่ายผู้ป่วยออกจาก รพ.แล้ว ทั้งที่ยังอยู่ในชุด รพ.ยังมีป้ายชื่อผู้ป่วย และเข็มน้ำเกลือเต็มแขน ที่สำคัญยายก็ยังไม่หายสุดท้ายตนต้องพากลับไป รพ.ประจำอำเภอกระสังทำเรื่องเข้ารักษาตัวใหม่อีกรอบ


และหลังจากที่โพสต์ก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์ว่าเคยเจอแบบนี้หลายเคส จึงอยากฝากให้ทาง รพ.ปรับปรุงการให้บริการ และการสื่อสารให้ชัดเจนกว่านี้ จะได้ไม่เกิดเคสแบบนี้อีก เพราะหากเกิดกับผู้ป่วยที่ญาติไม่มีรถไปรับ แล้วปล่อยให้ขึ้นรถโดยสารกลับมา รพ.ต้นทางเอง ในสภาพที่ยังอยู่ในชุดคนไข้มีเข็มน้ำเกลืออยู่ คนที่เห็นคงคิดว่าหนี รพ. ส่วนเรื่องการรักษาไม่ได้ติดใจเพราะแพทย์ พยาบาล ทำการรักษาอย่างดี


จากการสอบถาม นพ.พิเชษฐ พืดขุนทด นายแพทย์สาธารณสุขจ.บุรีรัมย์ ก็ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ซึ่งได้ให้ทาง ผอ.รพ.ประจำอำเภอดังกล่าว ไปขอโทษญาติและผู้ป่วย ซึ่งทาง รพ.ก็ยอมรับว่าเกิดจากความผิดพลาดคลาดเคลื่อนเรื่องการสื่อสาร ซึ่งก็ได้กำชับให้บุคลากรเจ้าหน้าที่ปรับปรุงทั้งเรื่องการสื่อสารและการบริการ ให้เกิดความรอบคอบชัดเจน และมีประสิทธิภาพมากขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น