เปิดแนวคิด “เฮียเค้ง” เกรียงไกร กิตติไพศาลศิลป์ ผู้ท้าชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรี ทต.เมืองแกลง

ภายหลังจากที่ กกต.ระยอง ได้ประกาศความพร้อมจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีใน จ.ระยอง ที่จะครบวาระในวันที่ 27 มี.ค.นี้ ซึ่ง กกต.จะต้องจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 45 วันนับแต่วันที่สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นดำรงตำแหน่งครบวาระ โดย กกต. จะเปิดรับสมัครเลือกตั้งในวันที่ 31 มี.ค.-4 เม.ย.นี้ และจะจัดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 11 พ.ค.2568

ส่งผลให้คอการเมืองในพื้นที่ต่างจับตาการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นที่กำลังจะมีขึ้น เพราะเชื่อว่าแต่ละพรรค แต่ละทีม จะต้องส่งผู้สมัครที่สามารถเรียกแรงศรัทธาเพื่อสร้างฐานเสียงรอการเลือกตั้งใหญ่ระดับประเทศได้เป็นอย่างดี และคอการเมืองยังเชื่อกันว่า การเลือกตั้งระดับท้องถิ่นในครั้งนี้ จ.ระยอง จะเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีการขับเคี้ยวกันอย่างดุเดือด

และอีกหนึ่งสนามเลือกตั้งใน จ.ระยอง ที่น่าจับตาก็คือสนามเลือกตั้งนายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลเมืองแกลง

ที่ในครั้งนี้ “เฮียเค้ง” หรือ นายเกรียงไกร กิตติไพศาลศิลป์ ซึ่งเกิดเมื่อวันที่ 6 เมย 2497 อาชีพเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำธุระกิจครอบครัว โรงงานแปรรูปไม้ยางพาราส่งออกต่างประเทศ โรงงานยางแผ่นรมควันอัดก้อนส่งออกต่างประเทศและยังมีประวัติการทำงานการเมืองในพื้นที่มานานถึง24 ปี ด้วยการเป็น ส.ท. 3 สมัย และประธานสภาเทศบาลตำบลเมืองแกลง ถือเป็นผู้คว่ำหวอดในแวดวงการเมืองพื้นที่มานาน

ส่วนการศึกษายังเป็นศิษย์เก่าสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง รุ่น 12 และศิษย์เก่าอำนวยศิลป์พระนคร รุ่น จานทอง ที่ได้ประกาศลงสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลเมืองแกลง

ด้วยหวังเปลี่ยนแปลงอนาคตเมืองแกลง ให้ดียิงขึ้น พร้อมชูนโยบายยกเครื่องเมืองแกลง ความโปร่งใส คือหัวใจของการทำงาน โปร่งใส ทำจริง พึ่งพิงได้

“เฮียเค้ง”บอกเล่าถึงสาเหตุที่ตัดสินใจลงชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีฯ ในครั้งนี้ ว่าเพราะรู้สึกอึดอัดกับการกำหนดนโยบายของผู้บริหารเทศบาลฯ ที่ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยก็มีแต่การกำหนดนโยบายแบบตั้งรับและ ไม่มีการทำงานในเชิงรุก ที่สำคัญไม่เคยออกแบบเมืองว่าจะเป็นไปไปในทิศทางใดที่จะทำให้เมืองเติบโตและพัฒนาอย่างยั่งยืน ทำให้ตนเองซึ่งทำงานการเมืองในพื้นที่มานาน


“เมืองแกลงอยู่กับปัญหาเดิมๆ มานานจากการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด ผมเองก็เข้ามาอยู่ตรงนี้ทำงานการเมือง ในฐานะ ส.ท.มานาน 24 ปีเห็นได้ชัดว่าที่ผ่านมาเราติดอยู่กับโครงสร้างพื้นฐาน สร้างถนน น้ำไหล ไฟสว่าง แต่โครงสร้างทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดี ยังไปไม่ถึงสักที เห็นได้ชัดจากการออกไปตลาดในทุกๆ เช้าที่มักจะมีแต่คนบ่นว่าขายไม่ได้ อยู่ยากเศรษฐกิจแบบนี้ ยิ่งมีปัจจัยแวดล้อมที่บีบเมืองเข้ามา อย่างถนนบายพาสตัดผ่านไปจันทบุรี รถไหลไปทางนั้นหมดเรื่องนี้เริ่มมา 10 กว่าปีที่ถนนกำลังสร้าง วันนี้บายพาสเสร็จเราเริ่มได้รับผลกระทบของมัน ถ้ายังไม่วางแผน ยังไม่ทำอะไร ตั้งรับอย่างเดียวก็เหมือนกับรอให้เมืองร้างไปวันๆ ”

และยังบอกอีกว่าในวันนี้ที่ตนเองได้ตัดสินใจแน่ชัดว่าจะต้องลุกขึ้นมาทำให้การค้าของ เมืองแกลง กลับมารุ่งเรือง เหมือนก่อน และจะต้องเป็นเมืองที่มีศักยภาพที่จะเติบโตเพื่อเป็นประตูสู่ EEC



วางนโยบายดึงคนเข้าพื้นที่-ยกระดับธุรกิจช่วยคนตัวเล็กให้อยู่รอด


โดยนโยบายสำคัญที่จะใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง คือ การกำหนดให้เทศบาลฯ จะต้องสนับสนุนเรื่องการดึงคนเข้ามาพื้นที่เพื่อให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยด้วยการสร้างจุดขายของดีเมืองแกลง รวมทั้งสร้างศูนย์ส่งเสริมการค้าเมืองแกลง และสร้างตลาดของดีเมืองแกลงที่จะมีทั้งอาหาร และขนม

นอกจากนั้นยังจะทำทัวร์ one day trip ดึงคนมาไหว้พระ ไหว้เจ้า สายมูต้องมา วัดสารนารถ มีแม่ชีบุญเรือนที่ศักดิ์สิทธิ์ ดังเรื่องสุขภาพและโชคลาภ , วัดพลง วัดโพธ์ทอง หรือจะทำล่องเรือ ล่องแพ เปิดเส้นทางท่องเที่ยวทางน้ำ เลาะริมสองฝั่งคลองตามรอยสุนทรภู่

รวมทั้งเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวใหม่ unseen เมืองแกลง พร้อมโปรโมท เกาะเข็มหลง ที่ไม่เคยมีใครเคยไปมาก่อน รวมทั้งจัดทำเส้นทางเดินเล่นในตลาดเก่าสามย่าน กินอาหารอร่อย แวะซื้อตลาดเย็นซื้อของกลับบ้าน อาหารทะเลสดๆ ใส่กล่องแพ็คกลับกรุงเทพฯ ติดแบรนด์ “ของดีเมืองแกลง” เพื่อช่วยคนตัวเล็กให้อยู่รอดในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน

จัดทำ street art ให้คนแวะถ่ายรูป ด้วยการดึงอินฟลูเข้าเมืองแกลง เพื่อประชาสัมพันธ์ที่พัก ร้านอาหาร คาเฟ่ ที่คนรุ่นใหม่ชื่นชอบ ตลอดจนวิถีชาวบ้านที่น่าสนใจ

“ เสน่ห์เมืองแกลงอยู่ที่ไหน เราต้องทำการบ้านกันให้หนัก เรามีจุดขายมากมาย ความใกล้ทะเล ใกล้ภูเขา เป็นแหล่งค้าขาย มีแม่น้ำประแสร์ไหลผ่าน มีผลไม้ทั้งปี มีอาหารที่อร่อยมาก มีวิถีชีวิตชาวบ้านที่น่ามอง เป็นประตูเชื่อมระยอง จันทบุรี เชื่อม EEC เข้ากรุงเทพฯ เพื่อให้ เมืองแกลง ไม่ใช่ทางผ่านอีกต่อไป และต้องขอของคุณทั้ง ร้านเกี๊ยวปลานายเคี้ยม ร้านผัดไทเตาถ่าน เจ๊แขก และอีกหลายๆ ร้านที่ทำให้อินฟลูตามมากิน จนทำให้คนรู้จักเมืองแกลง มากขึ้น”


ส่วนเรื่องการยกระดับธุรกิจนั้น นอกจากการหาตลาดเพิ่มแล้ว ภาครัฐจะต้องช่วย ปรับความรู้ ทักษะและการตลาดยุคใหม่ในวันที่ยุค AI กำลังมาแรง ด้วยการให้ความรู้ต่ด้านการขายของทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ รวมทั้งการการอบรม เวิคช็อปต่างๆ เพิ่มทักษะให้ผู้ประกอบการ คนตัวเล็กได้ขยายธุรกิจ

นอกจากนั้นเทศบาลฯ จะต้องเข้ามาสนับสนุนการจัดงาน event ที่ไม่ใช่แค่เทศกาลผลไม้ของดีเมืองแกลงครั้งเดียวแล้วจบ แต่จะต้องประชาสัมพันธ์ทุเรียน มังคุด มะม่วง ลองกอง กะท้อน ฯ ที่เมืองแกลง ไม่เคยแพ้ใครและปัจจุบันยังมี ทุเรียนต้นละแสนขาย เพื่อสร้างมูลค่าให้ให้กับเกษตรกร เพื่อเตรียนมความพร้อมในการยกระดับทุกธุรกิจที่สามารถเชื่อมโยงการค้า รองรับการมีรถไฟความเร็วสูงในอนาคต

ด้านคุณภาพชีวิต ต้องปรับปรุงทั้งสนามกีฬาของเทศบาลฯ ที่ต้องรีโนเวทใหม่รองรับจำนวนผู้สูงอายุมากที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการกำหนดนโยบายในการดูแลผู้ป่วย คนติดเตียง และคนพิการ รวมทั้งการสร้างปลอดภัยในการใช้ถนน ด้วยการจัดเดินรถแบบวันเวย์ และการติดตั้งกล้องวงจรปิดในทุกจุด และการจัดตั้งธนาคารอุปกรณ์ช่วยเหลือคนขาดแคลนอย่างเป็นระบบ

“ นอกจากรถพยาบาล ที่เพิ่งได้มาใช้งาน เราควรเพิ่มรถรับ-ส่ง คนไข้ไปโรงพยาบาล เช่นเดียวกับรถรางที่บ้านเราที่ทำไว้รับส่งนักเรียนซึ่งดีอยู่แล้ว แต่อาจจะเพิ่มในเรื่องการให้บริการรถรางชมเมืองสำหรับนักท่องเที่ยว รวมทั้งสนับสนุนให้คนในพื้นที่หันมาใช้รถ ev เพื่อประหยัดน้ำมันและสร้างพลังสะอาดให้มากขึ้น เช่นเดียวกับการสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้ระบบโซล่าเซลล์เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่อง pm 2.5 แบบองค์รวม”

ด้านการศึกษา “เฮียเค้ง” บอกว่าในอนาคตนักเรียนในพื้นที่จะต้องไม่เรียนแค่เรียนภาษาต่างชาติเท่านั้น แต่โรงเรียนจะต้องจัดให้มีการเรียนรู้เรื่องระบบ AI เพื่อให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงไปในโลกยุคปัจจุบัน ซึ่งเทศบาลฯ จะต้องเข้ามาสนับสนุน และพัฒนาทักษะชีวิตให้กับเด็กในพื้นที่โดยเน้นการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีควบคู่กันไป


นอกจากนั้นเทศบาลฯจะต้องเข้ามาสนับสนุนทุนการศึกษาให้เพียงพอสำหรับเด็กที่ขาดแคลนให้ทุกคนได้มีสิทธิ์ได้เล่าเรียนอย่างเท่าเทียมกัน เช่นเดียวกับการจัดสร้างสนามกีฬาที่จะเป็นศูนย์ออกกำลังกายและศูนย์การเรียนรู้ เช่นเดียวกับการจัด ทำสนามเด็กเล่น และห้องสมุดแนวใหม่เพื่อให้เด็กๆ ที่อยากอ่านหนังสือ ได้มีที่นั่งทำเวิคร์ช็อป และใช้เป็นพื้นที่ให้พ่อแม่พาลูกๆ มาเดินเล่น ฟังนิทานในสวน ฯลฯ

“ ส่วนเรื่องการยกฐานะเทศบาลตำบลเป็นเทศบาลเมือง เราควรทำมานานแล้วครับ การยกฐานะเป็นเทศบาลเมือง จะช่วยให้ได้เงินอุดหนุนมากขึ้น ทำให้การพัฒนาทำได้ง่ายขึ้น ดังนั้นจากนี้ไปจึงต้องเดินหน้ายกเครื่องเมืองแกลงยาม และออกแบบเมืองแกลงกันใหม่ เพื่อลูกหลานเราจะได้มีที่ทำมาหากิน โดยไม่นั่งรอโชคชะตาเมืองอย่างเดียว ถึงเวลาที่ต้องยกเครื่องใหม่แล้วครับ” เฮียเค้ง กล่าว