xs
xsm
sm
md
lg

เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด! ให้เพื่อนยืมเงิน 1.7 แสนปิดงวดรถ ก่อนเอารถมาค้ำประกัน สุดท้ายโดนแจ้งจับยักยอกทรัพย์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศรีสะเกษ - เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด! สาวใหญ่ศรีสะเกษโร่ร้องสื่อ เผยด้วยความสงสารให้เพื่อนยืมเงิน 170,000 บาทปิดงวดรถยนต์ ก่อนเอารถมาจำนองประกันหลักทรัพย์ และทวงถามเงินกู้ยืมตามสัญญากลับไม่ยอมชำระคืน สุดท้ายเจ้าตัวโดนเพื่อนรักแจ้งความดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์

วันนี้ (26 มี.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 43 ปี ชาวอำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนหลังจากถูกนางสาวบี (นามสมมติ) เพื่อนสนิทที่คบกันมานานหลายปี “ยืมเงินจำนวน 170,000 บาท” เพื่อนำไปปิดไฟแนนซ์รถยนต์ โดยนางสาวบีบอกว่าจะกำหนดใช้หนี้คืนอีก 1 เดือนให้หลัง ซึ่งหลังจากนั้นนางสาวเอได้พยายามทวงถามมาโดยตลอด แต่ปรากฏว่ากลับถูกนางสาวบีบ่ายเบี่ยงในการชำระเงิน จึงตัดสินใจทำสัญญากู้ยืมเงิน โดยนางสาวเอให้นางสาวบีนำรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น HRV มาไว้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน จนกว่าจะมีการชำระหนี้ให้กับนางสาวเอจนหมด สุดท้ายนางสาวเอได้ถูกนางสาวบีทำหนังสือทวงถามรถยนต์คืน และแจ้งความดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์


นางสาวเอเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า วันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 นางสาวบี ซึ่งเป็นเพื่อนของตน ได้มายืมเงิน จำนวน 170,000 บาท เพื่อนำไปปิดงวดรถยนต์ที่ค้างอยู่ จำนวน 3 งวด ด้วยความเห็นใจตนจึงตกลงให้นางสาวบียืมเงินจำนวนดังกล่าวไป และตามข้อตกลงนางสาวบีจะให้ดอกเบี้ยตนในจำนวนเงิน 30,000 บาท หลังจากที่ได้ปิดงวดรถยนต์แล้วได้เอกสารเล่มทะเบียนรถยนต์แล้ว จะนำรถยนต์ไปเข้าไฟแนนซ์เพื่อนำเงินจำนวน 170,000 บาทมาคืนตนให้ครบตามจำนวน


ผ่านไป 1 เดือน ซึ่งครบกำหนดข้อตกลงที่ได้คุยกันไว้ ตลอดระยะเวลาตนได้ทวงถามว่าได้เอกสารเล่มทะเบียนรถยนต์หรือยัง นางสาวบีก็ตอบกลับมาว่าจะได้ประมาณวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 จึงจะนำรถยนต์ไปเข้าไฟแนนซ์ให้ตามที่คุยกัน จนกระทั่งเวลาล่วงเลยข้ามปีมาถึงเดือนมกราคม 2568 ทำให้ตนรู้สึกว่า นางสาวบีเพิกเฉยต่อหนี้ของตน จึงได้ทำข้อตกลงกับนางสาวบีให้หาหลักทรัพย์มาค้ำประกัน นั่นคือ รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น HRV และทำสัญญากันเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา และนำรถยนต์มาจอดให้กับตนเพื่อเป็นการค้ำประกันเงิน


หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 นางสาวบีได้มาขอนำรถยนต์ไปทำธุรกรรม เข้าไฟแนนซ์ ตนจึงให้หลานชายของตนพาไป แต่หลังจากนั้น วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ตนได้รับหนังสือจากนางสาวบี ซึ่งเป็นหนังสือทวงถามรถยนต์ที่นางสาวบีนำมาค้ำประกันไว้กับตน โดยมีใจความว่าให้คืนรถยนต์ให้กับนางสาวบี ภายใน 15 วัน ไม่อย่างนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่หลังจากนั้นตนก็ได้ทวงถามเงินคืนจากนางสาวบีมาตลอด

จนกระทั่งถึงวันที่ 18 มีนาคม 2568 นางสาวบีได้ไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจใน “ข้อหายักยอกทรัพย์” โดยพนักงานสอบสวน สภ.อุทมพรพิสัยได้แจ้งให้ตนทราบ หลังจากนั้น ตนได้รวบรวมหลักฐานเพื่อมาให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งสิ่งที่ตนต้องการจริงๆ คือเงินที่นางสาวบียืมไปเท่านั้น แต่หลังจากนี้คงต้องมีอีกหลายคดีที่ตามมาด้วย


ต่อมาผู้สื่อข่าวสอบถามข้อเท็จจริงในเรื่องนี้กับทาง พ.ต.อ.นิลกาฬ พรศักดิ์ ผกก.สภ.อุทุมพรพิสัย ซึ่งได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ คำเครื่อง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.อุทุมพรพิสัย ติดตามดูแลในเรื่องนี้ อย่างใกล้ชิด และให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ คำเครื่อง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.อุทุมพรพิสัย เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากมีการกู้ยืมเงินกันระหว่าง นางสาวเอ กับนางสาวบี ที่เป็นเพื่อนกัน และมีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิของตนเอง ซึ่งเมื่อครบตามสัญญา และไม่มีการปฏิบัติตามสัญญา ทางตำรวจจึงได้เชิญทั้งสองฝ่ายมาเพื่อเจรจา เพื่อไกล่เกลี่ยในเรื่องที่เกิดขึ้น ตำรวจได้ใช้หลักทางรัฐศาสตร์ และเมื่อทราบจากข้อมูลทั้งสองฝ่ายว่ามีการกู้ยืมเงินกันจริง จึงแจ้งให้ลูกหนี้นำรถยนต์เข้าไปประเมินราคาไฟแนนซ์ และเมื่อได้เงินจำนวนเท่าใดก็นำเงินมาใช้ให้กับเจ้าหนี้ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายกลับสู่สภาพปกติตามเดิม

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอุทุมพรพิสัย ยืนยันว่าจะอำนวยความสะดวกและให้ความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่ายที่เป็นคู่ความกัน ก่อนที่จะมีการฟ้องร้องกันต่อศาล เพื่อสร้างความสงบสุขให้อำเภออุทุมพรพิสัยต่อไป










กำลังโหลดความคิดเห็น