ศูนย์ข่าวศรีราชา – ไม่รอด!! สาวปีนกำแพงหมู่บ้านบุกขโมยทรัพย์สินหญิงวัย 44 ปีทั้งพระเครื่อง ทองรูปพรรณ แหวนเพชรค่าเกือบ 7 แสนบาทหนี โชคดีเจ้าของร้านทองในพื้นที่จำภาพสิ่งของที่ถูกโพสต์ลงโลกออนไลน์ได้ขณะถูกนำมาขาย เร่งแจ้งตำรวจตามจับ
จากกรณี น.ส.ณัฐธยาน์ ธนภูมิสิธิ์ อายุ 44 ปี ได้โพสต์เรื่องราวให้ชาวเน็ตช่วยแจ้งเบาะแสหญิงปีนกำแพงหมู่บ้านเข้ามาขโมยทรัพย์สินทั้ง สร้อยคอทองคำ จี้ทองคำ แหวนเพชร jubilee พระเครื่อง เหรียญบูชาพญานาครมควันดำและของมีค่าต่างๆ รวมมูลค่ากว่า 7 แสนบาท พร้อมนำภาพจากกล้องวงจรที่จับภาพหญิงสาวสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขายาวถือถุงติดมือจำนวนสองถุงปีนกำแพงออกจากหมู่บ้านไว้ได้อย่างชัดเจน
พร้อมวอนผู้ที่พบเห็นหรือรู้จักผู้หญิงในภาพให้ช่วยแจ้งเบาะแสไปยัง สภ. บ้านบึง พร้อมวอนไปยังกลุ่มผู้เช่าบูชาพระเครื่องหลวงปู่ทิม และร้านทอง หากมีผู้นำสิ่งของมาจำนำหรือขายที่มีลักษณะคล้ายกับที่แจ้งไว้ ให้ช่วยแจ้ง ที่ สภ.บ้านบึง นั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ ( 25 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจหนองชาก ได้ติดตามจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าวพร้อมของกลางได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งใน ต.หนองไผ่แก้ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี และได้ควบคุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุโดยทราบชื่อผู้ต้องหาคือ น.ส.นริศรา คำเสน อายุ 38 ปี
และยังตรงกับหญิงสาวในภาพจากกล้องวงจรปิด หน้าร้านทองแห่งหนึ่งที่มีหญิงขี่รถจักรยานยนต์ นำกรอบพระเหลี่ยมทองและแหวนเพชรมาขายให้กับทางร้าน ซึ่งเมื่อข้าวของร้านเห็นสิ่งของดังกล่าวแล้วจำได้ว่าเป็นภาพที่เจ้าของได้โพสต์ลงโลกออนไลน์ เพื่อให้ชาวเน็ตช่วยแจ้งเบาะแส จึงได้แจ้งข้อมูลไปยัง สภ.บ้านบึง
โดย น.ส.นริศรา ยอมรับว่าเป็นบุคคลที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดของหมู่บ้านที่เกิดเหตุและร้านทองที่นำทองไปขายเป็นตนเองจริง และยังบอกอีกว่าในวันเกิดเหตุได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กษ 4614 พระนครศรีอยุธยา ออกจากห้องพักไปเรื่อยๆ กระทั่งมาถึงถนนสายเจ้าพ่อเสือ - ทุ่งเคล็ด ม. 5 ต.มาบไผ่ จึงจอดรถริมถนนและเดินเท้าเข้าไปในไร่มันสำปะหลัง ก่อนจะปีนข้ามกำแพงของหมู่บ้านที่เกิดเหตุเข้าไปลักทรัพย์
และจะเลือกบ้านที่ไม่มีรถยนต์จอดในรั้วบ้าน รวมทั้งจะสังเกตุจากรองเท้าหน้าบ้านที่หากบ้านใดนมีรองเท้าเยอะก็จะไม่เข้า โดยพบว่าบ้านหลังเกิดเหตุ สภาพรั้วบ้านมีช่องโหว่และมีพุ่มไม้บัง ประกอบกับประตูห้องศาลเจ้ามีลูกกุญแจเสียบคาอยู่ จึงเปิดเข้าไปเดินเข้าสำรวจภายในไปห้องครัว ก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นที่สองของบ้าน หยิบเอาทรัพย์สินทั้ง สร้อยทอง พระเครื่องเหลี่ยมทอง และแหวนเพชร รวมทั้งหยิบพระเครื่องออกจากห้องพระ
ขณะที่ น.ส. ณัฐธยาน์ ผู้เสียหายเผยว่าดีใจได้ของคืน และเมื่อพนักงานสอบสวนได้เชิญตัวมาตรวจสอบของกลางซึ่งผู้ต้องหานำไปขายให้กับร้านทอง ก็พบว่าเป็นของตนเองที่ถูกขโมยไปจริง
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อ น.ส.นริศรา ผู้ต้องหาได้เห็นผู้เสียหายถึงกับคุกเข่าขอร้องไม่ให้เอาเรื่อง และอ้างว่าสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปแล้ว แต่ ผู้เสียหายยืนยันว่าการดำเนินคดีจะต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฏหมายซึ่ง น.ส.ณัฐธยาน์ ยังเผยอีกว่าตนเองในฐานะผู้เสียหายรู้สึกเสียดายทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปที่มีมูลค่าประมาณ 6-7 แสนบาท ซึ่งในวันนี้ดีใจที่ได้คืนแม้จะยังไม่ครบทั้งหมดก็ตาม
พร้อมขอชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านบึง ภายใต้การนำของ พ.ต.อ.สมชาย ทิวงษา ผกก. สภ.บ้านบึง, พ.ต.ท.ทะนงศักดิ์ สุวรรณ 2 วัน ก็สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุพร้อมนำของกลางมาคืนให้ได้
