ลพบุรี - ชาวบ้านรวมตัวยื่นเอกสารคัดค้านการขออนุญาตประกอบการของโรงงานปุ๋ยชีวภาพ หวั่นได้รับผลกระทบ ด้าน สวล.ในอนาคต จากกระบวนการผลิต
วันนี้ ( 25 มี.ค.) ตามที่มีชาวบ้าน ในพื้นที่ หมู่ที่ 2, 3,4,5 จำนวน 190 ราย ได้ยื่นเอกสารศัดค้านการขออนุญาตประกอบกิจการโรงงาน ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพและก๊าซชีวภาพ จากกากตะกอนชีวภาพเฉพาะจากอุตสาหกรรมอาหาร,มูลสัตว์, เกษตร.แปรรูปเยื่อและกระคาษที่ไม่เป็นของเสียอันตราย และผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อใช้เองภายในโรงงาน ต่อสำนักงาอุตสาหกรรมจังหวัดลพบุรี โดยมีความกังวลที่อาจจะได้รับผลกระทบในอนาคด จากการประกอบกิจการโรงงาน โดย เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 ทางโรงงานบริษัท เอส.คื.เอ็นริชเมนท์ จำกัด ได้เปิดโรงงานเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง
ล่าสุ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ บริษัท เอส.ดี.เอ็นริชเมนท์ จำกัด ตั้งอยู่ที่ ม.3 ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี เพื่อสังเกตการบรรยากาศการประชุมชี้แจง ในกรณีโรงงานปุ๋ยชีวภาพส่งกลิ่นเหม็น ทำให้ประชาชนเดือดร้อนและได้ทำหนังสือคัดค้านการก่อสร้างโรงงานดังกล่าว โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐในจังหวัดลพบุรี อาทิ ศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดลพบุรี ,สำนักงานสิ่งแวดล้อม,สภ.พัฒนานิคม,อำเภอพัฒนานิคม,สาธารณสุขอำเภอ และประชาชนจำนวนหนึ่งเข้าร่วมรับฟังการชี้แจงดังกล่าว
โดยนางสาวสิริ วงษ์พรสถิต ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการบริษัทฯ ได้ชี้แจ้งในเรื่องของการก่อสร้างโรงงานรวมถึงผลกระทบของประชาชนที่มีความกังวลเรื่องกลิ่นเหม็นมาจากปุ๋ยชีวภาพจากโรงงานและการแก้ปัญหาและแก้ไขปรับระบบน้ำเสีย บำบัดลงบ่อในโรงงานและผลิตเป็นน้ำดีให้สะอาดให้ชาวบ้านใช้ประโยชน์ได้ โดยทางโรงงานจัดการ มาตรการป้องกันต่างๆ รวมถึงปรับสภาพสิ่งแวดล้อม ป้องกันกลิ่นเหม็นจะไม่ให้ส่งกลิ่นไปรบกวนประชาชนและชาวบ้าน และจะนำปัญหาสิ่งต่างๆที่ประชาชนและชาวบ้านเสนอแนะเข้ามาเพื่อจะนำเข้าที่ประชุมของบริษัทเพื่อมาแก้ปัญหาอีกครั้งหนึ่ง
ป้าเป้า อายุ 55 ปี ชาวบ้านอาชีพเกษตร เล่าว่า ตนเองมีอาชีพเลี้ยงวัวและทำไร่มัน ก็มีคนบอกว่าน้ำมันจะไหลลงดินวัวอาจไปกินหญ้ากินน้ำกลัวว่าวัวได้รับอันตราย ซึ่งทำให้ตนเองมีความกังวล ก็ขอบอกไว้กับทางโรงงานขอให้ทำให้ดีให้ครอบคุมทั่วถึง
นางสาวสิริ วงษ์พรสถิตย์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการบริษัทฯ กล่าวว่า บริษัทอยากชี้แจง ก่อนที่เราจะเปิดตัวก่อนที่เราจะลงทุนหรือสร้างอะไรที่มันมากไปกว่านี้เราอยากให้ทุกคนรู้ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการ หรือชาวบ้าน ตั้งแต่ของลพบุรี หรือของพื้นที่พัฒนานิคมเอง ให้ทราบว่าโรงงานนี้เป็นโรงงานเกี่ยวกับอะไร แล้วมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมั้ย แล้วก็ที่สําคัญก็คือว่าลักษณะของเราๆทําอะไรยังไงบ้าง เราได้นําผู้เชี่ยวชาญทั้งนักวิชาการจากมหาลัยชั้นนํา และผู้เชี่ยวชาญด้านเกี่ยวกับเรื่องของอุตสาหรรมประเภทเรานี้มาชี้แจง ก็เลยจัดงานชี้แจงวันนี้ขึ้น
โรงงานมีการสร้างแล้วแต่ยังไม่ได้ดําเนินกิจการ เป็นโรงงานประเภท 43 วงเล็บ 1 ขยาย 106 เนื่องจากว่าโดยพื้นที่เราไม่สามารถที่จะมาตั้งกองปุ๋ย 43 วงเล็บ 1 ก็คือลงปุ๋ยอินทรีย์ โดยการหมักแต่โดยสภาพพื้นที่โดยรวมเราไม่สามารถที่จะมาตั้งกองหมักเหมือนทั่วไปได้ก็เลยทําให้เราจําเป็นจะต้องมีบ่อก๊าซชีวภาพ ใช้บ่อก๊าซเป็นการหมักแทนที่จะหมักโดยการตั้งบนดิน เพื่อที่จะให้ก๊าซและก๊าซที่ได้เรานํามาเป็นไฟฟ้าแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้งานใช้ในท่ออบลมร้อน แล้วก็ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมของเรา งดการใช้ฟืน งดการใช้ถ่านหิน แล้วระบบมลพิษ หรือการส่งกลิ่นอะไร ประเภทอย่างนี้พลังงานมันจะมีมั้ยว่ามันจะไม่มีผลกระทบอะไร
ทั้งนี้ต้องรอดูตอนที่เปิดตัว แต่ด้วยระบบที่เรานําเสนอไปเราค่อนข้างคิดและก็ครอบคลุมมาอย่างดี โดยลงทุนสร้างบ่อก๊าซ สร้างบ่อสต็อก สร้างโรงเรือนปิดมาตรการแรกที่เราคํานึงถึงก็คือเรื่องกลิ่น และก็เรื่องการเป็นพาหะนำโลก เพราะว่า บริเวณที่เราอยู่เต็มไปด้วยพื้นที่ของแมลงวัน แล้วก็มลพิษเรื่องกลิ่น ดังนั้น โจทย์ ของโรงงานตั้งแต่วันแรกที่คิด คือเราจะทํายังไงก็ได้ ให้ที่นี่หมดปัญหาหรือลดปัญหาเรื่องกลิ่นลงเฉพาะกลิ่นภายในบริเวณโรงงาน แล้วก็ลดในเรื่องของการเป็นพาหะนําโลก
ในส่วนโดยรอบนี้จะมีการปรับภูมิทัศน์ด้วยการนำเอาต้นไม้มาวางไว้รอบๆ และวันนี้เราได้เชิญชาวบ้านมาแต่ก็มาเพียงแค่บางส่วนซึ่งเค้าไม่มาอ้างว่าไกล จริงๆแล้วภายใต้พื้นที่ๆโรงงานอยู่ เป็นพื้นที่สีม่วงเราได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างโรงงานประเภท 3 แม้กระทั่ง 43 วงเล็บ 1 หรือ แม้กระทั่ง 88 หรือ 89 เรามีหนังสือยืนยันกับผังเมืองมาเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่เราจะ ลงทุนไปสร้างไปขนาดนี้
การจัดการเวทีของเราเป็นการชี้แจง ไม่ได้เป็นการทําประชาวิจารณ์ โดยชี้แจงให้ทราบถึงมาตรการต่างๆของโรงงาน มาตรการ ป้องกัน เรื่อง ความปลอดภัย มาตรการป้องกัน เรื่องมลภาวะ ซึ่งจะนําสิ่งที่เราเตรียมมาทั้งหมดนี้ ออกไปสู่ที่ผู้นําชุมชน เป็นเอกสารไปให้ เราไม่สามารถที่จะไปเดินชี้แจงทุกหลังคาเรือนได้ เพราะว่าเราจัดครั้งนี้ก็คือครั้งที่ 2 แล้ว เราไม่ได้จัดครั้งแรก แล้วเราก็พยายามที่จะแสดงความจริงใจ และก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเลยกับสิ่งที่เกิดขึ้น
การดำเนินการที่นี่จุดประสงค์ก็คืออยากจะให้ชาวบ้านหรืออยากจะให้ผู้นําได้เข้ามาดูว่า เรื่องที่กังวลว่าเราขวางทางน้ำมั้ยให้มาดูตามพื้นที่จริงตามโฉนดดูแล้วก็การก่อสร้างของเราจะปล่อยน้ําเสียออกสู่ระบบมั้ย ให้ท่านมาดูว่ายอมรับได้หรือไม่ รวมทั้งมีระบบป้องกันอย่างไร หรือว่าจะมีกลิ่นมั้ย อยากจะให้ทุกคนเข้ามาดูกับพื้นที่ว่าการลงทุนสร้างการหมักโดยไม่วางตั้งกองลงทุนไปแค่ โดยไม่ได้นิ่งนอนใจ
