สระบุรี - รถบรรทุกพ่วงเบรกแตก ชนวินาศเสาไฟแรงสูงหักหลายต้น ไฟลุกท่วมคลอกคนขับดับคารถ บริเวณสี่แยกตีนโนน ถนนหน้าพระลาน-บ้านครัว จ.สระบุรี
วันนี้ ( 25 มี.ค.) พ.ต.ท.สมาน ภูวิภาค สารวัตร(สอบสวน) สภ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ได้รับแจ้งมีรถบรรทุกพ่วงชนเสาไฟฟ้าแรงสูงริมล้มหลายต้น และรถบรรทุกพ่วงเกิดไฟลุกไหม้ มีคนขับติดภายในรถ บริเวณสี่แยกตีนโนน ถนนหน้าพระลาน-บ้านครัว หมู่8 ต.ห้วยป่าหวาย อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี แจ้ง พ.ต.อ. วีระวุฒิ ดำสุวรรณ ผกก.สภ.พระพุทธบาท เพื่อทราบ พร้อมประสานไปยังดับเพลิงเทศบาลตำบลห้วยป่าหวายและกู้ภัยไปยังที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกยี่ห้อมิตซูบิซิ สีขาว ทะเบียนตัวแม่80-9881 ชัยนาท ทะเบียนตัวลูก 80-9356 ชัยนาท เกิด ไฟลุกไหม้ที่หัวเก๋งสภาพพังยับ ชนเสาไฟฟ้าแรงสูงข้างถนนหัก จำนวน4ต้น มีคนขับติดอยู่ภายในรถและถูกไฟคอกเสียชีวิต ทราบชื่อคนขับ นายสุเทพ เมืองขุนทด อายุ 59ปี ชาวอำเภอด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ถูกไฟคลอกเสียชีวิตคารถ ดับเพลิงเทศบาลตำบลห้วยป่าหวาย ใช้เวลาควบคุมเพลิงประมาณ 20 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
ในที่เกิดเหตุยังพบเสาไฟฟ้าแรงสูงล้มขวางถนนจำนวน4ต้น รถ ไม่สามารถผ่านได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องให้รถใช้เส้นทางอื่นเป็นสายรอง ส่วนคนขับเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่าง นำร่างออกจากตัวรถ เนื่องจากถูกเสาไฟฟ้าแรงสูงที่ชนหักทับที่หัวเก๋งช่วงคนขับ
สอบถามนายสมพงษ์ เดชสาทัน อายุ 62 ปี พ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยว ริมถนน เล่าว่า ขณะตนกำลังขายก๋วยเตี๋ยวเห็นรถบรรทุกพ่วงคันที่เกิดเหตุขับมาเลนซ้ายมุ่งหน้า ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ ขับคู่กันมากับรถบรรทุกพ่วงอีกคัน จังหวะเดียวกันเป็นสัญญาณไฟแดงมีรถติดไฟแดงอยู่ จู่ๆรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวได้หักรถออกซ้ายพุ่งชนเสาไฟฟ้าแรงสูงที่อยู่ริมถนน ทำให้เสาไฟฟ้าแรงสูงล้มตามกันจำนวน3ต้น เกิดไฟลุกไหม้ พริบตาเดียวเลยเสียงดังเหมือนระเบิด ตนคิดว่ารถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวน่าจะเบรกแตก
น.ส.ยีน หลานของคนขับรถบรรทุกพ่วง ที่เสียชีวิต เล่าว่า น้าตนขับรถบรรทุกพ่วงมานาน 20 กว่าปี ไม่มีโรคประจำตัว วันนี้ไปรับหินที่โรงโม่เขต ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี เพื่อไปส่งตามแพล้นปูน เป็นเจ้าของรถเองวันนี้ขับรถมาคนเดียว
ด้าน พ.ต.ท.สมาน ภูวิภาค สารวัตร(สอบสวน) สภ.พระพุทธบาท ได้เก็บหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ไปเป็นหลักฐานและสอบปากคำบุคลที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อประกอบสำนวนคดีและสาเหตุอุบัติเหตุในครั้งนี้ต่อไป
