นครปฐม - ตำรวจนครชัยศรีรับตัว "มิลค์- เลย์" สองผัวเมียฆ่าหั่นศพ "แอน" สอบปากคำ สารภาพฆ่าปิดปากเพราะกลัวจะถูกแจ้งความโกงเงิน โดยหลอกให้มาที่บ้านแล้วลงมือฆ่าในห้อง ก่อนแยกชิ้นส่วนนำไปฝังและโยนทิ้งน้ำ วันนี้เตรียมส่งไปสอบเพิ่มที่ สภ.ดอนตูม
จากกรณีมีการพบศพของ น.ส.ปิยะวรรณ พงษ์เภา หรือแอน อายุ 22 ปี ชาวตำบลบางระกำ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ซึ่งถูก น ส.ภัทราภรณ์ ลำจวน อายุ 21 ปี หรือมิลค์ และนายณรงค์ชัย สุวรรณแก้ว หรือเลย์ อายุ 26 ปี สามี ฆ่าแล้วหั่นศพฝังดินไว้หลังบ้านเลขที่ 38 หมู่ 5 ต.ดอนรวก อ.ดอนตูม จ.นครปฐม และต่อมาผู้ต้องหาถูกจับกุมได้ในโรงแรมแห่งหนึ่งที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยตำรวจชุดจับกุมถึงกับอึ้งเมื่อพังประตูเข้าไปในห้องแล้วพบว่าทั้งคู่กำลังร่วมรักกันอยู่โดยไม่ได้มีความวิตกกับเหตุการณ์ที่ได้ก่อเหตุฆ่าหั่นศพฝังดินและนำชิ้นส่วนทิ้งลงน้ำตามที่เป็นข่าวสะเทือนขวัญไปเมื่อวานนี้
ล่าสุด วันนี้ (23 มี.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม พ.ต.อ.พายัพ โสธรางกูล ผู้กำกับ สภ.นครชัยศรี ได้รับตัวผู้ต้องหาทั้งคู่มาทำการสอบปากคำ เบื้องต้นน.ส.ภัทราภรณ์ให้การรับสารภาพว่าที่ลงมือฆ่าผู้ตายเพราะกลัวความผิดเนื่องจากผู้ตายขู่ว่าจะไปแจ้งความหากไม่คืนเงิน ซึ่งก่อนหน้านี้มีการหลอกผู้ตายว่าจะพาไปทำงานเป็นพยาบาลที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม และมีการนำเงินของผู้ตายมาใช้จ่าย หลังจากนั้นถูกผู้ตายสอบถามจึงเกิดความกลัว ซึ่งวันเกิดเหตุได้หลอกผู้ตายมาบ้านที่เกิดเหตุ ที่อำเภอดอนตูม โดยเกิดความกลัวขึ้นมาจึงให้นายณรงค์ชัย ลงมือฆ่าผู้ตายในห้อง หลังจากนั้นได้หลบหนีไปที่จังหวัดเชียงใหม่จนถูกจับกุมในที่สุด
พ.ต.อ.พายัพ โสธรางกูล ผู้กำกับ สภ.นครชัยศรี เผยว่าจากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การว่าก่อเหตุจริง ซึ่งตำรวจตามสืบเรื่องนี้หลังจากสามีของ น.ส.ปิยะวรรณ หรือแอน ผู้ตายได้มาแจ้งความไว้ที่ สภ.นครชัยศรี เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ว่าผู้ตายได้หายออกจากบ้านกลัวว่าจะเกิดเหตุที่เป็นอันตราย ซึ่งทาง สภ.นครชัยศรี ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงได้จัดชุดสืบสวนออกติดตามออกสอบถามเบาะแสจนทราบว่าผู้ตายได้ติดต่อกับผู้ต้องหาทั้งสองคน
พ.ต.อ.พายัพ เปิดเผยอีกว่า ก่อนหน้านี้เราได้ทำการเรียกตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาสอบปากคำเบื้องต้นแล้ว แต่ผู้ต้องหาทั้งสองคนไม่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แต่ทางเราทราบว่าน่าจะเกิดเหตุร้ายจึงพยายามที่จะหาข้อกฎหมายเพื่อมาดำเนินการตามขั้นตอน เนื่องจากช่วงที่เรียกตัวผู้ต้องหามาสอบ เรารู้ตัวอยู่ก่อนแล้ว จึงพยายามสอบปากคำญาติสอบปากคำผู้ต้องหาจนได้ข้อมูลว่ามีการฉ้อโกง หลอกลวง โดยการปลอมไลน์ในโทรศัพท์ของผู้ตายไปหลอกเงินสามีให้โอนเงินมาให้ ซึ่งเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง เรารีบดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับ แต่มีบางอย่างที่ศาลยังติดใจ จึงมีการไต่สวนพยานหลักฐานเพิ่มเติมจนได้ออกหมายจับมาแต่ผู้ต้องหาทั้งรู้ตัวและได้หลบหนีไป
ต่อมาได้สืบทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนมีความเคารพนับถือตำรวจนายหนึ่งที่อำเภอกำแพงแสน จังหวัดเชียงใหม่ จึงให้ทางตำรวจรายนี้โทรศัพท์เจรจาพูดคุย ซึ่งผู้ต้องหาได้ขอข้อตกลงว่าถ้าเข้ามาแล้วต้องได้ประกันตัว แต่ตอนหลังผู้ต้องหาไม่ยอมและหลบหนีไป จนเราสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปที่เชียงใหม่ ชุดสืบสวนสอบสวนนครชัยศรีได้ประสานงานกับทางตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ และเข้าจับกุมได้กลางดึกของคืนวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนที่ สภ.เชียงใหม่จนผู้ต้องหาสารภาพว่าได้ฆ่าผู้ตายและนำศพไปฝังหลังบ้าน จึงประสานกับทางชุดสืบสวนอีกชุดหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่และประสานกับตำรวจ สภ.ดอนตูมเข้าพื้นที่จนพบศพดังกล่าว จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาทั้งสองคนในข้อหาฉ้อโกง ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานสรุปสำนวนเพื่อที่จะส่งศาลสั่งฟ้องต่อไป
ส่วนตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายคาดว่าวันนี้ทางตำรวจ สภ.ดอนตูมจะนำหมายศาลมารับตัวไปดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนตายและปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ และดำเนินการในคดีในส่วนของ สภ.ดอนตูมต่อไป
