เชียงใหม่ - สนง.สวล.เชียงใหม่เผยน้ำกกขุ่นคลั่กจริง-ผลตรวจภาคสนามยังปกติ แต่ต้องรอผลแล็บส่องตรวจพิสูจน์สารเคมี-ปรอท-ไซยาไนด์ ปนเปื้อนหรือไม่ หลังชาวบ้านผวา พร้อมยืนยันทุนจีนแห่ทำเหมืองทองเขตว้าใต้ ห่างชายแดนแค่ 3 กิโลฯ มากถึง 23 บริษัท
กรณีเจ้าหน้าที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) ได้ลงพื้นที่สำรวจและเก็บตัวอย่างน้ำในแม่น้ำกกพื้นที่หมู่บ้านแก่งทรายมูล หมู่ 14 ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ชายแดนไทย-เมียนมา เพื่อตรวจสอบการปนเปื้อน หลังจากตั้งแต่ต้นปี 2568 นี้น้ำกกที่ไหลมาจากเขตรัฐฉาน ประเทศเมียนมา เข้าสู่ อ.แม่อาย มีสีขุ่นและไม่ใสเหมือนเดิม
ล่าสุดนายชัยวัฒน์ ปันสิน ผู้อำนวยการส่วนตรวจและบังคับใช้กฎหมาย สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) เปิดเผยว่า หน่วยงานของกรมควบคุมมลพิษได้ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแผ่นล้อมเข้าไปตรวจสอบน้ำในแม่น้ำกกแล้ว เบื้องต้นลักษณะทางกายภาพพบว่าน้ำมีความขุ่นจริง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าภายในน้ำมีอะไรบ้าง จึงได้จัดเก็บตัวอย่างน้ำส่งไปตรวจในห้องปฏิบัติการโดยเฉพาะโจทย์ที่ว่าเกิดจากการทำเหมืองหรือไม่ ซึ่งเมื่อตรวจแล้วจะทำให้ทราบชัดว่าเกี่ยวข้องกับการทำเหมืองหรือไม่
แต่เบื้องต้นพบว่าคุณภาพน้ำยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งปริมาณออกซิเจนและค่ากรดด่างก็อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน 7-8 จึงยังไม่มีผลกระทบ ความนำไฟฟ้าก็ยังเป็นปกติ ดังนั้นเท่าที่ดู 3 เรื่องนี้ยังไม่มีสิ่งผิดปกติและยังไม่มีนัยสำคัญที่จะบ่งชี้ว่ามีการปนเปื้อนในปริมาณสูง
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เป็นการตรวจเบื้องต้นของภาคสนามเท่านั้น ส่วนการตรวจน้ำอย่างละเอียดต้องรอผลจากห้องปฏิบัติการภายใน 1 เดือน โดยการตรวจอย่างละเอียดดังกล่าวจะมีความสมบูรณ์ตามเกณฑ์มาตรฐานพารามิเตอร์ทั้งทางกายภาพ ทางเคมี และเพิ่มเติมการตรวจหาสารไซยาไนด์และปรอทซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำเหมืองทองด้วย
ชาวบ้านที่ ต.ท่าตอน ซึ่งมีญาติอยู่ในเขต จ.เมืองสาด และเมืองยอน ซึ่งอยู่ติดกับ ต.ท่าตอน ในเขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) บอกว่าที่หมู่บ้านฮุงในเขตสหรัฐว้าซึ่งติดกับ จ.เมืองสาด ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 36 กิโลเมตร มีการอนุญาตให้กลุ่มทุนจีนเข้าไปลงทุนกว่า 23 บริษัท เพื่อทำเหมืองแร่ต่างๆ โดยเฉพาะทองคำ ทำให้ชาวบ้านเกรงว่าจะเป็นสาเหตุทำให้น้ำกกขุ่นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนดังกล่าว
