ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เกิดเหตุระเบิด บึ้มคาบ้านขณะรับซื้อของเก่าที่ อ.วังน้ำเขียว โคราช เสียชีวิตคาที่ 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 4 ราย ชุด EOD เข้าเคลียร์พื้นที่ผงะพบลูกระเบิดอีก 3 ลูกยังไม่ระเบิด เร่งกันชาวบ้านออกห่างจุดเกิดเหตุ เผยชาวบ้านเก็บมาจากภูลำไย สนามฝึกทางยุทธวิธีของกองทัพภาคที่ 2 มาขาย ขณะกำลังคัดแยกชั่งกิโลเกิดระเบิดขึ้นโดยไม่คาดคิด
เมื่อเวลา 08.45 น. วันนี้ (18 มี.ค. 68) ได้เกิดระเบิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 130 บ้านโนนศรีทอง หมู่ที่ 14 ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตคาที่เกิดเหตุ 1 ราย คือ นางสมใจ พนมใหญ่ อายุ 61 ปี ภรรยาของ นายกิติศักดิ์ พนมใหญ่ อายุ 66 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะและตามร่างกายนอนเสียชีวิตเลือดนองพื้น
และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 4 ราย คือ นายกิติศักดิ์ พนมใหญ่ อายุ 66 ปี สามีผู้ตายและเป็นคนขับรถกระบะมารับซื้อของเก่า, นางสาวกำไล ศาลเป็น อายุ 50 ปี ฝ, นายธาราพงษ์ อิงปัญจกาญจน์ อายุ 61 ปี และนางเครือวัลย์ สิงห์งอน อายุ 52 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ โดยผู้บาดเจ็บทุกรายถูกสะเก็ดระเบิดตามร่างกายบาดเจ็บสาหัส
เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย มูลนิธิพุทธธรรมการกุศล (ฮุก 31) นครราชสีมา จุดอุดมทรัพย์ ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วรีบนำส่ง รพ.วังน้ำเขียว และ รพ.ปักธงชัย ซึ่ง นายธรรมทัศน์ ทองสำโรง นายอำเภอวังน้ำเขียว พร้อมด้วย พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา ได้รุดมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมอำนวยการสั่งการเก็บกู้ระเบิดและให้ความช่วยเหลือแล้ว
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายกิติศักดิ์ พนมใหญ่ ได้ขับรถกระบะพา นางสมใจ พนมใหญ่ ภรรยา (ผู้ตาย) เป็นคนอำเภอประคำ จังหวัดบุรีรัมย์ ออกตระเวนรับซื้อของเก่าไปขายต่อ เมื่อมาถึงบ้านของนางเครือวัลย์ที่เกิดเหตุได้จอดรถเพื่อรับซื้อของเก่า โดยนางเครือวัลย์ ได้นำของเก่าที่เก็บมาจากภูลำไย ซึ่งเป็นสนามฝึกรบทางยุทธวิธีของกองทัพภาคที่ 2 ออกมาขาย โดยขณะที่กำลังคัดแยกของเก่าเพื่อชั่งกิโลก็ได้เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันทีคือนางสมใจ ภรรยานายกิติศักดิ์ และมีผู้บาดเจ็บอีก 4 รายดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุดมทรัพย์ ฝ่ายปกครอง อ.วังน้ำเขียว ได้แจ้งให้ชุด EOD จากกองทัพภาคที่ 2 เข้ามาเก็บกู้ระเบิดไม่ทราบชนิดอีก 4 ลูก ประกอบด้วย M79, ระเบิดปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน และระเบิด RPG พร้อมกับกันพื้นที่ออกห่างจากบ้านหลังเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร ไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าใกล้บริเวณดังกล่าวทันที ซึ่งยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าในบ้านหลังที่เกิดเหตุนั้นจะมีวัตถุระเบิดหลงเหลืออยู่อีกมากน้อยเพียงใด
จากการสอบสวนทราบสาเหตุของการระเบิด
ว่า ขณะที่นางสมใจ ผู้ตายได้เอาลูกระเบิด M79 ใส่ถุงปุ๋ยเพื่อชั่งน้ำหนักที่ตราชั่ง โดยหันด้านหัวลูกระเบิดลง ทันใดนั้นได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์กระเด็นไปคนละทิศละทางตามแรงระเบิด และนางสมใจ คนชั่ง ถูกแรงระเบิดเสียชีวิตทันที และมีผู้บาดเจ็บสาหัสอีก 4 รายดังกล่าว
นางนิตยา ร้อยกิ่ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 บ้านโนนศรีทอง เปิดเผยว่า มี 2 ครัวเรือนที่จะออกไปเก็บของป่า และหาผักหวาน พอเก็บมาได้ก็จะโทร.เรียกพ่อค้ารับซื้อของเก่าให้มารับซื้อสินค้า ซึ่งมีร้านอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3-4 กิโลเมตร ซึ่งคิดว่าชาวบ้านที่เก็บหัวระเบิดมาน่าจะรู้ว่าเป็นวัตถุระเบิด แต่คงคิดว่าเป็นระเบิดเก่าที่แตก และไม่ทำงานแล้ว จึงเก็บกลับมา
เพราะไปเก็บหลังจากทหารซ้อมรบกันเสร็จแล้ว ซึ่งภูลำไยห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตร และเคยเกิดเหตุในลักษณะนี้กับชาวบ้านหมู่บ้านอื่น เพิ่งจะเคยเกิดเหตุกับชาวบ้านบ้านโนนศรีทองเป็นครั้งแรก ซึ่งทุกครั้งที่มีการซ้อมรบ ใช้กระสุนจริง ตนจะแจ้งเตือนชาวบ้านทุกครั้ง ชาวบ้านบางรายก็ดื้อ คิดว่าฃม่น่าจะเป็นอะไร จึงเข้าไปหาเก็บเศษวัตถุที่ถูกทำลายจากแรงระเบิดแล้ว แต่ตนคิดว่าไม่คุ้มเลยที่พากันไปเสี่ยงแบบนี้
ด้าน นางบุญเลี้ยง ทิมราช อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 บ้านโนนศรีทอง หมู่ 14 ตำบลอุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เป็นแม่ของนางสาวกำไล ศาลเป็น ผู้ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า ลูกออกไปเก็บผักหวานกับชาวบ้านทั้งในหมู่บ้านโนนศรีทอง และจากหมู่บ้านอื่นๆ ไปกันเป็นร้อยคน ตนจะเตือนลูกทุกครั้งที่ออกไปหาของป่าและเศษโลหะบนภูลำไยให้ดูดีๆ ซึ่งแต่ละครั้งจะเก็บเศษโลหะชิ้นน้อยๆ กลับมา จะมีทั้งทองเหลืองและเศษเหล็ก จะใช้เหล็กดูดตรวจหาโลหะ
ลูกสาวเล่าว่าจะขายได้ราคาดี เมื่อเช้าตนไปเสียค่าไฟ จึงไม่ได้เดินไปดูตอนที่พ่อค้ามารับซื้อของเก่า คาดว่า คนที่เสียชีวิตน่าจะจับวัตถุระเบิดขึ้นมาดูเพื่อจะแยกประเภทและนำไปชั่งน้ำหนัก พอเกิดเหตุระเบิดแบบนี้ตนรู้สึกกลัวอย่างมาก ตอนนี้อาการของลูกสาวถูกระเบิดที่แขนและท้องอาการสาหัส ส่วนลูกเขยก็ถูกระเบิดที่แขนและขา อาการสาหัสเช่นกัน ถ้ารักษาอาการดีขึ้นกลับมาอยู่บ้านก็จะไม่ให้ไปหาเก็บเศษโลหะบนภูลำไยอีกแล้ว เพราะเสี่ยงอันตรายมาก แค่ทำนาทำไร่พอได้อยู่ได้กินยังดีกว่า