xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป)นักเรียน-ชาวบ้านริมปิงฮือถือป้ายทวงเงินฝากธนาคารชุมชนกว่า 10 ล้านหายเกลี้ยง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลำพูน - เด็ก นร.ฝากมาตั้งแต่อนุบาล 1 จนจบ ป.6-พ่อเฒ่าแม่แก่ฝากตั้งแต่วันก่อตั้ง หายเกลี้ยง..ชาวริมปิงเมืองลำพูน พร้อมลูกหลานรวมตัวถือป้ายทวงเงินธนาคารชุมชนที่เก็บหอมรอมริบฝากไว้ร่วม 20 ปี ยอดรวมกว่า 10 ล้าน วันนี้ถอน-กู้ไม่ได้ ด้าน ปธ.อ้างปล่อยกู้หมดแล้วแต่ยังเรียกคืนไม่ได้


วันนี้ (17 มี.ค.) ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลริมปิง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ได้มีเด็กนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษารวมถึงชาวบ้านในเขตเทศบาลตำบลริมปิง และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 300 คน ได้รวมตัวกันบุกไปทวงถามเงินจากสถาบันการเงินชุมชนตำบลริมปิง ที่ตั้งอยู่ในอาคารของเทศบาลฯ

เนื่องจากได้มีการปิดทำการไปนานนับเดือนแล้ว ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถถอนเงินได้ รวมถึงเด็กนักเรียนที่ฝากเงินไว้ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กำลังจะเข้าเรียนต่อชั้นมัธยมฯ ฝากเก็บไว้เป็นทุนการศึกษา ตั้งแต่ 1 หมื่น ถึง 5 หมื่นบาท รวมกันกว่า 3 แสนบาท และต้องการเงินเพื่อนำไปจ่ายค่าเทอมอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้ แต่ไม่สามารถเบิกเงินได้

เด็กชายเฟิร์ส (นามสมมติ) อายุ 12 ปี กล่าวว่า ตนฝากเงินมาตั้งแต่ชั้นอนุบาล วันละ 50-100 บาท โดยยอมอดขนมและกินขนมให้น้อยลงใช้จ่ายอย่างประหยัด ทำให้มียอดฝากเงินรวม 50,918 บาท และตั้งใจว่าจะนำเงินที่ฝากไว้ไปเป็นทุนการศึกษาเป็นค่าเทอมในการศึกษาต่อชั้นมัธยมฯ แต่ไม่สามารถเบิกเงินได้ โดยทางผู้บริหารสถาบันการเงินชุมชนบอกว่ายังไม่มีเงินให้เบิก และที่ทำการก็ปิดมาหลายสัปดาห์แล้ว วันนี้จึงพากันมาเพื่อทวงถาม


ด้านนายเย็น อ้ายพิงค์ อายุ 72 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่มียอดฝากเงินจำนวน 73,978 บาท กล่าวว่า ตลอดเวลากว่า 20 ปี คือตั้งแต่ก่อตั้งสถาบันการเงินชุมชน ประมาณปี 2548 ตนก็นำเงินมาฝากต่อเนื่อง เพราะหวังไว้ว่าจะเก็บไว้กินไว้ใช้ตอนแก่ และสะดวกสบายเพราะอยู่ใกล้บ้าน ไม่ต้องเข้าในเมือง

แต่ไม่คาดคิดว่าการบริหารงานของคณะกรรมการจะล้มเหลว จนทำให้สมาชิกไม่สามารถเบิกและกู้ต่อไปได้ หลังจากวันนี้ไปตนและชาวบ้านจะพากันไปแจ้งความ เพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริงและดำเนินคดีตามกฎหมายตามขั้นตอนต่อผู้บริหารสถาบันการเงินชุมชนริมปิง


ขณะที่นายชาญชัย แซ่ฉิน อาย 74 ปี ประธานสถาบันการเงินชุมชนตำบลริมปิง กล่าวว่า ยอดเงินที่ชาวบ้านนำมาฝากในตัวเลขเบื้องต้นมีประมาณ 10 ล้านบาทกว่า และได้ทำการปล่อยกู้ไปทั้งหมด 10 ล้านบาทเศษ ทำให้ไม่มีเงินเหลือสำหรับให้สมาชิกที่มาขอเบิก

“ด้วยความที่ไม่มีประสบการณ์การบริหารงานด้านการเงินทำให้เกิดปัญหา อีกอย่างการทวงถามเงินจากผู้กู้ก็ต้องคุยกับเขาเพราะเป็นคนในพื้นที่ทั้งหมด เราไม่สามารถใช้วิธีการทวงแบบอื่นได้นอกจากเจรจา หากได้เงินคืนมาแล้วผมจะรีบดำเนินการคืนเงินให้ชาวบ้านต่อไป”


กำลังโหลดความคิดเห็น