ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - หน.อุทยานฯ ทับลานรุดดูอาการ “กระทิงป่า” ตาบาดเจ็บ คลุ้มคลั่งวิ่งชนต้นไม้ กลางป่าครบุรี โคราช พบตาทั้งสองข้างบวมอักเสบและลูกตาข้างขวาอักเสบเป็นฝ้าขาว คาดติดเชื้อจากแมลงวันตา เร่งประสานสัตวแพทย์เข้าช่วยเหลือ พร้อมเตือนชาวบ้านห้ามเข้าพื้นที่หวั่นได้รับอันตรายจากกระทิง
วันนี้ (17 มี.ค. 68) กรณีชาวบ้านบ้านตลิ่งชัน ม.9 ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา พบกระทิงป่าเดินวนอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าวังน้ำเขียว บริเวณป่าหนองงูเหลือม บ้านตลิ่งชัน ม.9 ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี ไม่ยอมกลับเข้าป่าลึก เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา เป็นกระทิงหนุ่มโตเต็มวัย น้ำหนักประมาณ 1 ตัน มีอาการหงุดหงิด บางทีคลุ้มคลั่งวิ่งชนต้นไม้ไปทั่วบริเวณ คาดว่าตาน่าจะมองไม่เห็น เกรงชาวบ้านจะได้รับอันตราย นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน จึงส่งทีมเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทับลาน ที่ ทล.08 (ตลิ่งชัน) ที่เข้าตรวจสอบให้เฝ้าดูอยู่ห่างๆ และแจ้งเตือนห้ามไม่ให้ใครเข้าไปใกล้ในบริเวณเพื่อความปลอดภัย พร้อมประสานไปยังทีมสัตวแพทย์ให้เข้ามาดูอาการเพื่อหาทางช่วยเหลือ
ล่าสุด นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ได้เข้าไปตรวจสอบอาการของกระทิงป่าตัวดังกล่าว ซึ่งพบว่าเป็นกระทิงเพศผู้ อายุไม่ต่ำกว่า 10 ปี น้ำหนักประมาณ 600 กิโลกรัม บริเวณขอบตาซ้ายและขวาบวมอักเสบ โดยลูกตาข้างขวาอักเสบเป็นฝ้าขาว อาการหนักกว่าข้างซ้าย และพบเห็นแมลงวันขนาดเล็กคล้ายแมลงหวี่ บินตอมตาทั้งสองข้าง
เบื้องต้นวิเคราะห์สาเหตุอาการเจ็บป่วยขั้นต้น เชื่อว่า เกิดจากแมลงวันตา (Eye Fly) ซึ่งปัจจุบันมักพบเห็นการระบาดสู่สัตว์ป่าอยู่บ่อยครั้ง แต่โดยภาพรวมกระทิงยังมีสภาพร่างกายแข็งแรง เคลื่อนไหวได้เกือบเป็นปกติ ยกเว้นทิศทางการเดิน มักจะวนเป็นวงกลมทางด้านซ้าย
เจ้าหน้าที่ได้ทำการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนชาวบ้านไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวเนื่องจากอาจได้รับอันตรายจากกระทิงได้ และทำการประสานข้อมูลสัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) พิจารณาหาแนวทางรักษาเพื่อให้กระทิงตัวดังกล่าวสามารถใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ป่าต่อไป เนื่องจากจุดที่พบกระทิง ไม่สามารถใช้รถยนต์เข้าไปเคลื่อนย้ายกระทิงป่าออกมารักษาภายนอกได้ จะใช้ได้แค่รถจักรยานยนต์และการเดินเข้าไปเพื่อขนส่งอุปกรณ์เข้าสู่จุดหมาย ซึ่งจะทราบผลการประสานงานในวันนี้ (17 มี.ค. 68)
จากการตรวจสอบพื้นที่พบว่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติดังกล่าวพบการปล่อยปศุสัตว์ (วัว-ควาย) หลายฝูงให้เข้าไปเดินหากินอยู่ในพื้นที่ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดการระบาดของโรคในสัตว์ประเภทวัว เข้าสู่สัตว์ป่าที่ออกมาหากินในพื้นที่ป่าใกล้เคียงกับชุมชนดังกล่าว ทางอุทยานแห่งชาติทับลานจะเร่งนำเรื่องเข้าหารือส่วนราชการ ผู้นำชุมชน และราษฎรที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป