เชียงใหม่ – ฝุ่นควันเชียงใหม่ปกคลุมหนาทึบทั่วทั้งเมืองจน “ดอยสุเทพ”ล่องหน และยังส่อเค้ารุนแรง เหตุจุดความร้อนจากการเผาป่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของภาคเหนือ ขณะที่ผลตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษพบทั้ง PM 2.5 และ AQI สูงเกินค่ามาตรฐานทุกสถานี อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ด้านเว็บไซต์ดังตรวจพบค่ามลพิษเชียงใหม่ทะยานขึ้นยึดอันดับ 2 ของเมืองหลักทั่วโลก
วันนี้(15 มี.ค.68) รายงานข่าวแจ้งว่าสถานการณ์ปัญหาฝุ่นควันไฟป่าและคุณภาพอากาศของเชียงใหม่มีแนวโน้มที่เริ่มจะรุนแรงขึ้นตามลำดับ หลังจากที่ช่วงสัปดาห์ที่แล้วมีฝนตกช่วยชะลอสถานการณ์ไว้ โดยตลอดทั้งวันนี้พบวาสภาพทั่วทั้งตัวเมืองเชียงใหม่ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันค่อนข้างหนาทึบอย่างชัดเจนและทำให้การมองเห็นยอดดอยสุเทพจากระยะไกลเป็นไปอย่างเลือนลาง ซึ่งเป็นผลมาจากเหตุไฟไหม้ป่าที่เกิดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือ
ทั้งนี้รายงานจุดความร้อน (Hotspot) จาก สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ(GISTDA) ประจำวันที่ 15 มี.ค.68 (รอบเช้า) จากการตรวจวัดของ Suomi-NPP เวลา 02.19 น. พบจุดความร้อนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่จำนวนทั้งสิ้น 91 จุด ประกอบด้วย อำเภออมก๋อย 27 จุด,เชียงดาว 21 จุด,ฮอด 15 จุด,ดอยเต่า 9 จุด,แม่แจ่ม 7 จุด,แม่วาง 4 จุด,พร้าว 3 จุด,ไชยปราการ 2 จุด,สันทราย 1 จุด,ฝาง 1 จุด และแม่แตง 1 จุด
ขณะที่เดียวกันข้อมูลจาก GISTDA ระบุว่าในรอบ 24 ชั่วโมงของวันที่ 14 มี.ค. 68 พบจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ รวมทั้งสิ้น 680 จุด และอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 145 จุด ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของภาคเหนือ ส่วนอันดับ 1 ได้แก่ จังหวัดตาก 165 จุด, อันดับ 3 ลำปาง 91 จุด, อันดับ 4 น่าน 66 จุด และอันดับ 5 แม่ฮ่องสอน 55 จุด
ส่วนรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่จากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษพบว่าอยู่ในระดับที่สูงเกินค่ามาตรฐานและเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพทุกสถานีแล้ว โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจากสถานีในตำบลช้างเผือก, ตำบลศรีภูมิ, ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่, ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม, ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว และตำบลหางดง อำเภอฮอด พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. วันนี้ อยู่ที่ 52.3 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 37.7 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 52.9ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 44.8 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 50.2 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 62.1 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 140, 101, 142, 120, 134 และ 166 ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 100
ด้านเว็บไซต์ Iqair.com ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศจากทั่วโลก แจ้งผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศและการจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษทั่วโลก เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ พบว่าเทศบาลนครเชียงใหม่มีดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 158 US AQI และค่า PM 2.5 วัดค่าได้ 66 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐาน และอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อทุกคน โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศดังกล่าวถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 2 ของเมืองหลักที่มีมลพิษอากาศสูงสุดของโลก ทั้งนี้ 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 เมืองกินชาซา ประเทศคองโก ดัชนีคุณภาพอากาศ 193 US AQI และอันดับ 3 เมืองทาซเคน ประเทศอุซเบกิสถาน 157 US AQI
