จันทบุรี –รอง ผบก.ภ.จว.จันทบุรี นำทีมลงพื้นที่ตรวจสอบ เกาะกลางอ่างเก็บน้ำคิรีธาร อ.ขลุง เดินหน้าทวงคืนเกาะ100ไร่ หลังถูกชาวบ้านบุกรุกทำสวนทุเรียน พบมีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตามข้อตกลง ขณะสวนทุเรียนใกล้ยืนต้นตาย
.
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ (14 มี.ค.) พ.ต.อ. ธราเทพ ตูพานิช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตกพรม, นายอำเภอขลุง, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอขลุง แล นายกรรชัย มีกระโดน ผู้ใหญ่บ้าน ม. 3 ต.บ่อเวฬุ อ.ขลุง ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณเกาะกลางอ่างเก็บน้ำคิรีธาร ซึ่งเป็นพื้นที่โครงการไฟฟ้าพลังน้ำคีรีธาร ของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงานหลังพบการบุกรุกพื้นที่รวม 260 ไร่ เพื่อทำสวนทุเรียนของชาวบ้าน 24 ราย
หลังเมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมร่วมผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และตัวแทนชาวบ้านเพื่อหาทางออก และได้ชี้แจงว่าพื้นที่เกาะกลางอ่างฯ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการไฟฟ้าพลังน้ำคีรีธาร และได้รับอนุญาตใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ ครอบคลุมพื้นที่ป่าตกพรหม จำนวน 5,794 ไร่ และป่าปัถวี 834 ไร่
โดยบางส่วนรอบโครงการถูกจัดสรรเป็นที่ดิน ส.ป.ก. ให้ประชาชนทำกิน แต่พื้นที่บนเกาะกลางอ่างเก็บน้ำไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์แต่อย่างใด
และจากการลงพื้นที่ตรวจสอบ 3 จุดสำคัญ พบว่าชาวบ้านได้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ท่อน้ำ หัวสปริงเกอร์ และปั๊มน้ำออกจากพื้นที่ทั้งหมดแล้ว คงเหลือเพียง ต้นทุเรียนและต้นกล้วย ที่มีสภาพใบเหลืองเหี่ยวแห้ง เนื่องจากขาดน้ำ และถูกแมลงศัตรูพืชเข้าทำลาย
ขณะที่ นายกรรชัย มีกระโดน ผู้ใหญ่บ้าน ม. 3 ต.บ่อเวฬุ ยืนยันว่าเผยว่าชาวบ้านทั้ง 24 รายไม่มีเจตนาบุกรุกพื้นที่อ่างเก็บน้ำฯเพียงแต่ไม่ทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตหวงห้ามของรัฐ ซึ่งเมื่อได้รับแจ้งให้รื้อถอน จึงดำเนินการรื้อสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ทั้งหมดภายในครึ่งเดือนที่ผ่านมา ขณะนี้จึงเหลือเพียงต้นไม้ที่รอการตรวจสอบ
ด้าน พ.ต.อ. ธราเทพ ตูพานิช เผยว่าจากการตรวจสอบพบว่าชาวบ้านได้รื้อถอนอุปกรณ์ทางการเกษตรออกหมดแล้ว และขณะนี้ต้นทุเรียนที่เหลืออยู่เริ่มได้รับผลกระทบจาก ภัยแล้งและแมลงศัตรูพืช โดยคาดว่าอาจยืนต้นตายภายใน 10 วัน หากไม่มีแหล่งน้ำและการดูแล
" เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้งในวันที่ 26 มี.ค.นี้อีกครั้งซึ่งจะครบกำหนดใน 30 วัน และหากพบการบุกรุกซ้ำก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ขณะเดียวกัน กระทรวงพลังงาน ก็เตรียมดำเนินการล้อมรั้วพื้นที่โครงการไฟฟ้าพลังน้ำคีรีธาร เพื่อป้องกันการบุกรุกเพิ่มเติมในอนาคตทันที" พ.ต.อ. ธราเทพ กล่าว
