ศูนย์ข่าวศรีราชา - กมธ.ทรัพยากรฯ วุฒิสภา จี้หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งเช็กบิลกลุ่มทุนข้ามชาติฮุบป่าฉะเชิงเทราทำสวนทุเรียน 688 ไร่ สุดอึ้ง! พบข้อมูลเจ้าหน้าที่รัฐโอนสิทธิป่าสงวนให้นายทุนจีน
วันนี้ (12 มี.ค.) นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา เผยถึงผลการประชุมเพื่อพิจารณาติดตามกรณีกลุ่มทุนจีนบุกรุกป่าทำสวนทุเรียนขนาดใหญ่ ในพื้นที่ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ได้มีการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้แทนกรมป่าไม้ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ฉะเชิงเทรา ตำรวจภูธร จ.ฉะเชิงเทรา ผู้แทนจากกรมการปกครอง อบต.คลองตะเกรา และบริษัทเอกชน 2 รายที่มีชื่อครอบครองที่ดินกว่า 688 ไร่ เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ
แต่ปรากฏว่าบริษัทเอกชนไม่มีการส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุม กมธ.แต่อย่างใด ว่าขณะนี้ กรมป่าไม้ได้ตรวจยึดพื้นที่และดำเนินคดีกับบริษัทเอกชนซึ่งครอบครองที่ดิน ภ.บ.ท.5 ไปแล้วกว่า 300 ไร่ จากทั้งหมด 688 ไร่ ซึ่งคณะกรรมาธิการได้แนะนำให้มีการเร่งดำเนินการให้ครบถ้วน โดยที่รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ฉะเชิงเทรา อยู่ระหว่างการขยายผลว่ามีใครเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ เพื่อที่จะได้รวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อนแจ้งข้อกล่าวหากับนายทุนต่อไป
“ที่สำคัญมีหลักฐานการโอนสิทธิในที่ คทช.จำนวน 5-6 แปลง บนเนื้อที่ 688 ไร่ให้บริษัทเอกชนโดยตรง โดยไม่มีการตั้งนอมินี ซึ่งทาง อบต.ไม่มีอำนาจหน้าที่โอนสิทธิในป่าสงวนให้ใคร เรื่องนี้จึงถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะ คทช. มีหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งการที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเป็นพยานรับรู้รับทราบเท่ากับเป็นการเอื้ออำนวยให้กลุ่มทุน”
นายชีวะภาพ ยังกล่าวอีกว่าล่าสุดคณะกรรมาธิการได้สรุปตามข้อกฎหมายว่า 2 บริษัทเอกชนที่รับโอนที่ คทช.มีความผิดชัดเจน ทั้งผู้ที่โอนให้และผู้ที่รับโอน เนื่องจากไม่มีเอกสารสิทธิตามกฎหมาย ซึ่งหลังจากนี้จะเร่งจสร้างความกระจ่างว่า ที่ดิน ภ.ท.บ.5 ไม่สามารถโอนสิทธิซื้อขายได้ โดยเฉพาะยิ่งพื้นที่ คทช. ที่จะต้องอยู่ในมือพี่น้องชาวท่าตะเกียบเท่านั้น จะไปอยู่ในมือนายทุนไม่ได้