ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “พล.ท.บุญสิน” มทภ.2 ส่งสารถึงพี่น้องชาวไทย ลั่นกองทัพภาคที่ 2 พร้อมปกป้อง ธำรงและรักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน เพื่อรักษาผืนแผ่นดินไทย ด้วยชีวิต พร้อมย้ำ “ทหารเป็นมากกว่าทหาร” ยึดมั่นอุดมการณ์ และเรียกร้องการข่าวรอบคอบ ท่ามกลางสถานการณ์ชายแดนตึงเครียด
วันนี้ (11 มี.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กของ กองทัพภาคที่ 2 เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 ได้โพสต์ภาพของ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ระบุข้อความ “กองทัพภาคที่ 2 พร้อมแล้วที่จะปกป้อง ธำรง และรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน เพื่อรักษาผืนแผ่นดินไทย...ด้วยชีวิต” พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2
พร้อมข้อความจาก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ถึงบทบาทของทหาร ระบุว่า สารนี้จากพี่ถึงน้อง “จดใส่คำ จำใส่ใจ”
“เป็นทหารมากกว่าทหาร” ด้วยจิตวิญญาณแห่งเกียรติยศ ยึดมั่นอุดมการณ์ เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน บ้านเมืองจะเดินต่อไปได้ เพราะเราเสียสละ เข้มแข็ง ด้วยความสามัคคีปรองดอง
ห้วงเวลานี้การข่าวก็เป็นเรื่องสำคัญอีกประการหนึ่ง ข้อมูลข้อเท็จจริงถูกต้อง มีการกลั่นกรองอย่างชัดเจนก่อนสื่อสาร คือสิ่งที่สังคมต้องการรับรู้ โดยเน้นประโยชน์ของสังคม ประเทศชาติและพี่น้องประชาชนเป็นอันดับหนึ่ง ลงชื่อ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2
โพสต์ดังกล่าวมาพร้อมแฮชแท็ก #กองทัพบกRoyalThaiArmy #กองทัพภาคที่2 #พลโทบุญสินพาดกลาง #สามัคคีปรองดอง และ #ทหารเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส
ทั้งนี้ ย้อนกลับไปเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2568 มีรายงานว่าทหารกัมพูชาแสดงพฤติกรรมที่ถูกมองว่าเป็นการยั่วยุ เช่น การร้องเพลงชาติบนปราสาทตาเมือนธม การตัดลวดหนามของฝ่ายไทย และการห้ามทหารไทยเก็บกู้ทุ่นระเบิดในเขตแดนฝั่งไทย โดยอ้างตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งสร้างความกังวลในหมู่เจ้าหน้าที่และประชาชนชาวไทยในพื้นที่
ต่อมาในช่วงต้นเดือนมีนาคมมีรายงานเพิ่มเติมว่าทหารกัมพูชาดำเนินการตัดรั้วลวดหนามบริเวณชายแดน ซึ่งโฆษกกองทัพบกได้ออกมาชี้แจงว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 เนื่องจากรั้วลวดหนามชำรุดและไหลไปฝั่งกัมพูชา จึงต้องมีการรื้อเพื่อซ่อมแซมร่วมกัน และยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งระหว่างสองฝ่าย อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากบางแหล่งว่าทหารกัมพูชาเผาศาลาที่ใช้เป็นจุดเจรจาบริเวณชายแดน ซึ่งทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายไทย
ข้อความจาก พลโท บุญสิน พาดกลาง จึงถูกมองว่าเป็นการส่งสัญญาณถึงความจำเป็นในการรักษาความสงบและความสามัคคีภายในประเทศ รวมถึงเตือนให้ทุกฝ่ายระมัดระวังในการเผยแพร่ข้อมูลที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การเน้นย้ำถึงบทบาทของทหารที่เป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส อาจเป็นการสร้างความมั่นใจให้ประชาชนในช่วงที่สถานการณ์ชายแดนยังคงมีความอ่อนไหว และยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป