ศูนย์ข่าวศรีราชา - 3 รัฐมนตรี ทวี จิราพร จุลพันธ์ ร่วมกันแถลงผลงาน DSI ร่วมกับกรมศุลกากร และ สตช. ขานรับนโยบายปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า ยึดบุหรี่ไฟฟ้าผ่านแดนกว่า 2 แสนชิ้น มูลค่า 33.07 ล้านบาท ลักลอบนำเข้าจากจีนผ่านประเทศไทยส่งไปพม่า
เวลา 15.00 น.วันนี้ (10 มี.ค.) น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 นายรังสรรค์ ศรีอนันต์ นักบริหาร 13 ท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมด้วยคณะร่วมแถลงข่าว ยึดบุหรี่ไฟฟ้าผ่านแดน กว่า 2 แสนชิ้น มูลค่า 33.07 ล้านบาท ณ ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี
พ.ต.อ.ทวี เปิดเผยว่า ตามที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีนโยบายสั่งการให้ปราบปรามการลักลอบนำเข้า ส่งออกบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง รวมถึงการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเร่งด่วนให้เห็นผลภายใน 30 วัน นับแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2568 โดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียนและร้านค้ารอบสถานศึกษา เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีของประชาชน โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ขานรับนโยบายและสั่งการให้กรมศุลกากร เพิ่มความเข้มงวดเพื่อตอบสนองนโยบายอย่างเคร่งครัด พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มการเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าและส่งออกบุหรี่ไฟฟ้าทุกช่องทาง รวมถึงการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง จากการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงในการนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย
โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าที่มีการลักลอบนำเข้าหรือผ่านแดน กรมศุลกากรมีการรวบรวมข้อมูลการข่าวและจับตาพฤติการณ์ของผู้ที่มีความเสี่ยงในการลักลอบนำบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด ซึ่งกรมศุลกากรได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องจนเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 เวลา 18.00 น. กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง และกองสืบสวนและปราบปรามกรมสอบสวนคดีพิเศษ สถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี สถานีตำรวจภูธรแหลมฉบัง และตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกันตรวจสอบตู้สินค้าผ่านแดน จำนวน 1 ตู้คอนเทนเนอร์ ณ ท่าเรือ LCMT (A0) สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ประเทศ ต้นทางจาก CHINA ส่งไปประเทศ Myanmar นำเข้าสินค้าผ่านท่าเรือแหลมฉบัง และจะไปทำการตรวจปล่อยที่ด่านศุลกากรแม่สอด สำนักงานศุลกากรภาคที่ 3
โดยสำแดงสินค้าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ส่วนประกอบรถยนต์ เครื่องจักรและอื่นๆ จำนวน 1,173 กล่อง ผลการตรวจสอบพบบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง 6,000 ชิ้น มูลค่า 1,200,000 บาท น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 6,000 ชิ้น มูลค่า 900,000 บาท หัวพ็อดบุหรี่ไฟฟ้าที่ภายในบรรจุน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 190,100 ชิ้น มูลค่า 28,515,000 บาท และเครื่องบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 8,200 ชิ้น มูลค่า 2,460,000 บาท รวมทั้งหมด 210,300 ชิ้น มูลค่ารวม 33,075,000 บาท อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 และเป็นของต้องห้ามตามประกาศกระทรวงพาณิชย์
เรื่อง สินค้าต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ.2559 ประกอบประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2557 และประกาศกรมศุลกากรที่ 185/2564 เรื่อง พิธีการ ศุลกากรว่าด้วยการผ่านแดนทางอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ข้อ 6 ในกรณีนี้จะไม่มีการระงับคดีในชั้นศุลกากร สำหรับสถิติการจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า ในปีงบประมาณ 2568 (1 ตุลาคม 2567-7 มีนาคม 2568) จับกุมได้ 298 คดี มูลค่า 73.25 ล้านบาท