xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป)ล่า “เสี่ยจิว” ลีซอหนุ่มเมีย 5! เบื้องหลังแก๊ง 6 ล้ออำพรางเป็นรถทหารขนไอซ์-ยิงปะทะ ตร.บนดอยแม่สลอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงราย - ชำแหละเบื้องหลังแก๊งอดีตสิบเอกรบพิเศษ แต่ง 6 ล้ออำพรางเป็นเหมือนรถบรรทุกทหาร ขนไอซ์ 1.5 ตัน-ยิงปะทะ ตร.บนดอยแม่สลอง พบเป็นเครือข่าย “เสี่ยจิว” ลีซอวัย 40 คนแม่สลองมีบ้านหรูทั้งที่คลองหลวงและแม่จัน-สวนทุเรียนอยู่เชียงแสน-รีสอร์ตอยู่เชียงราย เมียน้อย 5 คน


วันนี้ (9 มี.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.มานพ เสนากุล ผบก.ภ.จว.เชียงราย พล.ต.กิดากร จันทรา ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง พร้อมด้วย ป.ป.ส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแถลงข่าวที่ ภ.จว.เชียงราย

กรณีตำรวจ กก.สส.ภ.จว.เชียงราย และ ภ.5 รวมทั้ง สภ.แม่ฟ้าหลวง และ สภ.แม่จัน จ.เชียงราย ยิงปะทะกับขบวนการขนยาเสพติดบนดอยแม่สลอง ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จับผู้ต้องหาได้ 7 คน โดยคนร้ายถูกยิงบาดเจ็บ 2 คน และยึดรถยนต์บรรทุก 6 ล้อสีเขียวและติดทะเบียนตรงกงจักรที่ขนยาไอซ์ในถังโลหะน้ำหนักประมาณ 1,500 กิโลกรัม พร้อมยึดอาวุธปืน เครื่องกระสุน ระเบิดสังหาร เครื่องแบบทหาร ฯลฯ ได้เป็นจำนวนมาก ระหว่างวันที่ 7-8 มี.ค.ที่ผ่านมา

นายอนุทินกล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นรายใหญ่ที่สุดอีกรายหนึ่งที่ทำให้ทราบถึงเครือข่ายยาเสพติดรายนี้ว่าใช้การอำพรางตัวเป็นเจ้าหน้าที่โดยใช้รถเหมือนรถทหาร และผู้ต้องหาที่บาดเจ็บก็เคยเป็นทหารมาก่อนแต่ถูกปลดออกเพราะไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่ก็ได้อาศัยชั้นเชิงเดิมในการกระทำความผิด ทั้งนี้ ยาเสพติดชุดนี้คาดว่ามีเป้าหมายจะส่งไปยังตลาดต่างประเทศซึ่งประเมินราคาคร่าวๆ ได้กิโลกรัมละ 1 ล้านบาท ของกลางทั้งหมดจึงมีมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่สกัดกั้นเอาไว้ได้อย่างกล้าหาญ

พล.ต.ท.กฤตธาพลกล่าวว่า ในนาม นบ.ยส.35 ซึ่งประกอบด้วยตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และ ป.ป.ส.ได้สืบทราบว่าเครือข่ายยาเสพติดรายนี้เป็นเครือข่าย "เสี่ยจิว" หรือนายชุติธัญญ์ อายุ 40 ปี ชาวลีซอดอยแม่สลอง แต่มีที่อยู่ที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มีบ้านหรูอยู่ที่ ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย มีสวนทุเรียนอยู่ที่ อ.แม่สาย และ ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย มีรีสอร์ตอยู่ที่ อ.เมืองเชียงราย และมีเมียน้อย 5 คน

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของเสี่ยจิวมาตั้งแต่ปี 2566 หรือกว่า 3 ปี มีการสกัด-ยึดของกลางได้ แต่ยังจับเสี่ยจิวไม่ได้ กระทั่งวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่พบความเคลื่อนไหว โดยเสี่ยจิวและพวกอีก 6 คน พร้อมรถยนต์ 2 คัน ไปพบปะกันที่รีสอร์ตของเสี่ยจิวเขต อ.เมืองเชียงราย วันที่ 7 มี.ค.พากันไปที่สวนทุเรียนท้องที่ ต.บ้านแซว ก่อนจะแยกย้ายกันขับรถ 5 คัน หนึ่งในนั้นเป็นรถบรรทุก 6 ล้อ ที่อำพรางเป็นรถขนส่งทหารขึ้นไปบนดอยแม่สลอง หมู่บ้านสันติคีรี หมู่ 1 ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง

พล.ต.ท.กฤตธาพลกล่าวอีกว่า กระทั่งเวลา 03.30 น. วันที่ 8 มี.ค.เจ้าหน้าที่เห็นรถบรรทุก 6 ล้อเป้าหมายต้องสงสัยจอดอยู่หน้าอนุสรณ์สถานวีรชนในหมู่บ้านสันติคีรี จึงเข้าไปตรวจสอบไม่พบบุคคลใด แต่พบถังโลหะขนาด 200 ลิตร ภายในบรรจุไอซ์จำนวนมากดังกล่าว

เจ้าหน้าที่จึงปิดล้อมดอยแม่สลองเอาไว้ กระทั่งเวลา 04.30 น.วันเดียวกันได้มีรถยนต์อเนกประสงค์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว มีชาย 2 คน และหญิง 1 คนขับมาตามถนนจึงเข้าไปตรวจสอบ แต่คนร้ายในรถใช้อาวุธปืนยิงทำให้เกิดการปะทะกันและคนร้ายบาดเจ็บ 2 คนดังกล่าว นอกจากนี้จับกุมคนเครือข่ายที่ขับรถหลบหนีได้ที่ด่านตรวจกิ่วสะไต ต.ป่าตึง อ.แม่จัน ได้อีก 4 คน รวมผู้ต้องหาได้ 7 คน


ในวันนี้ (9 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ยังขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านเสี่ยจิว พบถังลักษณะเดียวกันอีกหลายถัง พบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนอีกเป็นจำนวนมาก ลูกระเบิดสังหาร 7 ลูก เสื้อลายพรางทหาร 5 ตัว โดยตัวหนึ่งถักเป็นชื่อของ “เสี่ยจิว” ส่วนที่เหลือเป็นของคนที่ยิงต่อสู้กับตำรวจจนถูกยิงบาดเจ็บ 2 คน เมื่อไปตรวจที่สวนทุเรียนที่ ต.บ้านแซว พบเมียน้อยของเสี่ยจิวพร้อมเสื้อลายพรางทหารและยึดรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุได้อีก 1 คัน ฯลฯ รวมของกลางที่ยึดทรัพย์คาดว่าประมาณ 40 ล้านบาท ปัจจุบันศาลได้ออกหมายจับเสี่ยจิวไว้แล้ว

ด้าน พล.ต.กิดากรกล่าวว่า คดีนี้เป็นผลมาจากวันที่ 26 ธ.ค. 2567 ที่ทหารสกัดรถขนไอซ์น้ำหนัก 1,413 กิโลกรัมได้ในท้องที่ อ.แม่ฟ้าหลวง แต่ไม่พบคนร้าย และเจอโทรศัพท์มือถืออยู่ในรถ จึงได้มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการขยายผลจับกุมและยึดไอซ์ของเครือข่ายเสี่ยจิวดังกล่าว


สำหรับรถบรรทุก 6 ล้อที่ใช้ขนยาเสพติดล็อตนี้ ทางกองทัพบกแจ้งว่าไม่มีใช้ในกองทัพ ตรวจสอบพบเป็นการอำพรางให้คล้ายรถขนส่งทหารโดยพ่นสีเขียว ส่วนป้ายกงจักรนั้นได้ตรวจสอบแล้วเคยมีอยู่จริง แต่ประจำกับรถปิกอัพที่ปลดประจำการและจำหน่ายซากแล้ว ก่อนถูกนำเอาตัวเลขป้ายมาใส่ในรถ 6 ล้อของกลาง

“เมื่อตรวจสอบไปยังกองทัพบกก็ทราบว่าไม่มีรถคันนี้ประจำการอยู่ ขณะที่ผู้ต้องหาชายทั้ง 2 คนไม่ใช่ทหารประจำการในกองทัพ แต่ได้ถูกปลดออกนานแล้วกลับมารวมกลุ่มกันก่อหตุ โดยใช้รถและคราบเดิมอำพรางเจ้าหน้าที่ตามด่านตรวจต่างๆ อาวุธสงครามที่ยึดได้ก็ไม่มีใช้ในกองทัพ แต่เป็นอาวุธเถื่อนทั้งนั้น”


กำลังโหลดความคิดเห็น