ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - สุดเวทนา สุนัขขาเปลี้ย นอนเฝ้าศพเจ้าของ คุณตาวัย 88 ปี ไม่ยอมห่าง หลังหายออกจากบ้าน ญาติแจ้งผู้ใหญ่บ้านระดมกู้ภัยและจิตอาสาค้นหาทั้งวันก่อนพบเสียชีวิตอยู่กลางไร่มันสำปะหลัง ท่ามกลางอากาศร้อนจัด คาดหลงทางจนหมดแรงเสียชีวิต
วันนี้ ( 7 มี.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทิวา วรรณโกษิตย์ รองผู้กำกับสืบสวน สภ.ครบุรี จ.นครราชสีมา รับแจ้งเหตุพบบุคคลเป็นชายเสียชีวิต อยู่กลางไร่มันสำปะหลัง ท้ายหมู่บ้านหนองมะค่า หมู่ที่ 9 ต.แชะ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา จึงจุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิพุทธธรรมฮุก 31 ประจำจุดอำเภอครบุรี โดยในที่เกิดเหตุพบมีเจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนตำบลแชะ อาสาสมัคร และชาวบ้านจำนวนมาก กำลังมุงดูศพของ นายนิ่ม ปัจจัยครบุรี อายุ 88 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ที่ 9 ต.แชะ นอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพนอนคุดคู้ตะแคงตัวไปฝั่งขวา สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น กางเกงขาสั้น อยู่กลางไร่มันสำปะหลัง โดยมีสุนัขเพศผู้ ขาหลังเปลี้ยอ่อนแรงทั้ง 2 ข้าง ชื่อเจ้า”ดุ๊กดิ๊ก นอนเฝ้าศพอยู่ไม่ยอมห่าง แม้ว่าตลอดทั้งวันอากาศจะร้อนจัดเกือบ 38 องศาเซลเซียสก็ตาม และในช่วงที่ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำศพคุณตาขึ้นรถ เจ้าดุ๊กดิ๊ก ซึ่งกำลังหันไปกินน้ำ เมื่อหันกลับมาไม่เห็นศพคุณตา ก็พยายามเดินดมกลิ่นตามหา ซึ่งเป็นภาพที่จุกอกแก่ผู้ที่พบเห็นอย่างมาก ก่อนที่ทางคนในครอบครัวของคุณตาจะพาตัวเจ้าดุ๊กดิ๊กกลับบ้านในเวลาต่อมา
จากการสอบถาม น.ส.ลั่นทม พึ่งครบุรี อายุ 43 ปี ลูกสาวของผู้ตาย บอกว่า ตัวเองเพิ่งมารู้ว่าบิดาหายตัวไปเมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. วันนี้ 6 มี.ค.68 หลังจากที่ชายที่อาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกัน มาแจ้งว่า พ่อน่าจะหายตัวไปเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา ตอนที่พี่ชายได้กินยาเข้านอนไปแล้ว ส่วนตัวเองอยู่บ้านอีกหลังที่ไม่ห่างกันมากนัก จึงรีบพากันออกตามหาทั่วรอบบ้านและในหมู่บ้าน แต่ก็ไม่พบตัว ก่อนจะแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ระดมจิตอาสาช่วยตามหา ซึ่งก็ได้รับวามร่วมมือเป็นอย่างดี จากทั้งทางเจ้าหน้าที่ อบต.แชะ ที่ช่วยประสานจิตอาสานำโดรนมาช่วยบินสำรวจทั่วบริเวณที่คาดว่า พ่อจะไปตลอดทั้งวัน ก่อนจะพบกับรอยเท้า และร่องรอยการหักต้นมันสำปะหลังเป็นทาง จึงใช้โดรนบินติดตามกระทั่งมาพบ พ่อของตัวเองนอนเสียชีวิตอยู่กลางไร่มันสำปะหลังในที่สุด
น.ส.ลั่นทม บอกอีกว่า พ่อของตัวเองนั้นมีโรคประจำตัวทั้งเบาหวาน ความดัน ตามประสาผู้สูงอายุ และเริ่มมีอาการหลงๆลืมๆ และมักจะบอกว่าอยากจะไปดูที่ดินที่ตัวเองเคยมีตามจุดต่างๆ แต่ก็ไม่เคยออกไปไกลจากบริเวณบ้าน จนกระทั่งมาในวันนี้คิดว่า พ่อน่าจะเดินออกจากบ้าน เพื่อที่จะไปดูที่ดินที่เคยเป็นของตัวเอง ซึ่งขายไปนานแล้ว แต่เกิดหลงทาง ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด และมีโรคประจำตัว จึงเป็นเหตุให้หมดแรงเสียชีวิตดังกล่าว
ทางด้าน นายบุญชอบ งบกระโทก ผู้ใหญ่บ้านหนองมะค่า บอกว่า ตัวเองได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่าผู้ตายได้หายออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. จึงได้ประชาสัมพันธ์เสียงตามสายเพื่อระดมชาวบ้านมาช่วยกันตามหา พร้อมกับประสานจิตอาสาที่มีโดรนมาช่วยบินตามหาตลอดทั้งวัน จนพบรอยเท้าที่คาดว่าน่าจะเป็นของผู้ตายเดินเข้าไปในป่ามันสำปะหลัง พร้อมกับมีรอยการหักต้นมันสำปะหลังเป็นทาง จึงติดตามมาเรื่อยๆกระทั่งมาพบศพ โดยมีสุนัขที่ผู้ตายเลี้ยงไว้ เฝ้าศพอยู่อย่างน่าเวทนา ซึ่งคิดว่าผู้ตายน่าจะหลงทางและเกิดอาการอ่อนแรง เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดจนเสียชีวิต จึงอยากฝากเตือนไปยังประชาชนที่มีญาติผู้สูงอายุที่มีอาการหลงๆลืมๆ ให้ดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์น่าเศร้าเช่นนี้ขึ้นอีก
