พระนครศรีอยุธยา - ตร.ผักไห่ ใช่เวลาไม่ถึง 24 ชม.รวมหนุ่มใหญ่วัย 46 คาบ้านพักหลังก่อเหตุขับ จยย.พ่วงข้าง ขโมยเครื่องสูบน้ำชาวนาข้ามจังหวัด อ้างไปใช้ในนาเช่าของตน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรผักไห่ ว่าเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้นำเครื่องสูบน้ำ ยี่ห้อยันมาร์ สีแดง ราคาประมาณ 16,000 บาท มาติดตั้งเพื่อสูบน้ำเข้านา ที่บ่อน้ำริมถนน สายผักไห่-วิเศษชัยชาญ ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลอมฤต อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต่อมาวันที่ 4 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 21.30 น. มาดูพบว่าเครื่องสูบน้ำหายไป เช้าวันนี้จึงได้รีบเดินทางมาแจ้งความที่ สภ.ผักไห่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งติดตามตัวคนร้าย
ภายใต้การสั่งการ พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ดุษฎี หิรัญรัตน์ ผกก.สภ.ผักไห่ สั่งการให้ พ.ต.ท.อดิศักดิ์ สินสืบผล รอง ผกก.สส.สภ.ผักไห่ ร.ต.อ.ปิยะ หัทยา รอง สว.สส.สภ.ผักไห่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ผักไห่ เร่งนำกำลังชุดสืบสวน ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง
เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม รวมถึงเส้นทางที่คนร้ายก่อเหตุ จึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบ ซึ่งพบว่ามีกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายได้ชัดเจน เป็นรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง 1 คัน ขับมาดูลาดเลาในตอนกลางวันและกลับมาลงมือก่อเหตุลักเครื่องสูบน้ำขึ้นรถก่อนหลบหนีไปในตอนกลางคืน
จนสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายบุญรัตน์ อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 102 หมู่ที่ 3 ตำบลดอนมะสังข์ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี จากการตรวจสอบพบว่า นายบุญรัตน์ มีพฤติกรรมก่อเหตุเกี่ยวกับทรัพย์ จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว พบนายบุญรัตน์ ยืนอยู่หน้าบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปสอบถาม นายบุญรัตน์ แสดงอาการมีพิรุธ พูดจาวกวน พร้อมยอมรับสารภาพว่าตนเข้าไปขโมยจริง
จึงได้ตรวจสอบภายในบ้านพัก พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า เมท สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ประกอบพ่วงด้านข้าง ก่อนพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปกลางทุ่งหน้าที่ นายบุญรัตน์ เช่าไว้ทำนา ในพื้นที่ตำบลดอนมะสังข์ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี พบเครื่องสูบน้ำดังกล่าวตั้งอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการตรวจยืดของกลางทั้งหมดที่พบได้แก่ เครื่องสูบน้ำ 1 เครื่อง รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง 1 คัน เสื้อยืดแขนสั้นสีขาว 1 ตัว กางเกงขาสั้นสีดำ 1 ตัว และหมวดไหมพรม 1 ใบ ที่ใช้ใส่ไปก่อเหตุตรงตามกล้องวงจรปิดมาประกอบคดี พร้อมเดินทางไปชี้จุดเกิดเหตุที่ผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดี ถูกนายบุญรัตน์ ลักเครื่องสูบน้ำไป
นายบุญรัตน์ รับสารภาพว่าไปก่อเหตุจริง ซึ่งจะขับรถจักรยานยนต์ตระเวนตามทุ่งนาต่างๆ ในเวลากลางวัน เพื่อหาเครื่องสูบน้ำ และใช้ความมืดในตอนกลางคืนเข้าไปก่อเหตุ โดยอ้างว่านำมาใช้ในที่นาเช่าของตน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ที่เป็นของผู้มีอาชีพกสิกรรมหรือเครื่องมืออันมีไว้สำหรับประกอบกสิกรรม โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
