อุดรธานี-ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ใช้ไขควงจับด.ญ.12 ขวบใส่กุญแจมือเป็นตัวประกันชิงรถสองแถว อ้างไม่ได้วางแผนล่วงหน้า ทำไปเพราะหลอนยาบ้า เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาชิงทรัพย์ กักขังหน่วงเหนี่ยว ค้นประวัติเจอมีคดีค้างเก่า 2 หมาย คดียักยอกทรัพย์ในจังหวัดชัยภูมิและคดีลักทรัพย์ที่จังหวั
วันนี้ (4มี.ค.) ที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.มานิตย์ แก้วเจริญ รอง ผกก.หน.สภ.เมืองอุดรธาน สาขาย่อยห้วยหลวง ร่วมกันแถลงข่าวแลการจับกุม นายวิทวัส พลเขต หรือเบิร์ด อายุ 30 ชาว จ.หนองบัวลำภู ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์รถโดยสารประจำทาง พร้อมพาตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งท่าทีของคนร้ายอยู่ในอาการสลด
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลา 15.30 น. เกิดเหตุคนมีร้ายจี้ชิงรถสองแถวจับเด็กอายุ 12 ปี กับ 17 ปี เป็นตัวประกัน จากนั้นได้ขับรถสองแถวหลบหนีไป เหตุเกิดบริเวณถนนที่บ้านโนนปอแดง ต.โคกสะอาด อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งตำรวจได้สอบปากคำผู้เสียหายและได้ออกติดตามสืบสวนหาคนร้าย ต่อมาค่ำวันเดียวกันตำรวจพบรถสองแถวจอดไว้ในบริเวณทุ่งนาข้างวัดบ้านหนองอ้อน้อย ต.หนองบัวบาน อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ห่างจากจุดที่ก่อเหตุราว 5 กิโลเมตร แล้วผู้ต้องหาหลบหนีไปในเขตอำเภอกุดจับ และเอาเงินที่ชิงทรัพย์ได้ไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ ก่อนเข้าไปพักรีสอร์ท ซึ่งเจ้าของรีสอร์ทติดตามข่าวโซเซียลเห็นคนร้ายมาพักจึงกล่อมให้มอบตัว
ซึ่งผู้ต้องหา นายวิทวัส รับสารภาพขณะทำแผนว่า หลังจากขึ้นรถโดยสารได้ยืนท้ายรถ จากนั้นก็ลงมานั่งข้างน้องผู้หญิง เรื่องที่เกิดขึ้นตัวเขาไม่ได้วางแผนมาก่อน ยอมรับว่าเสพยาเสพติดจนหลอน กลัวคนที่ขับรถตามมาจะฆ่าและทำร้ายจึงก่อเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
ด้านนางอุดมพร เจ้าของรถโดยสารสองแถว บอกว่า รู้สึกดีใจที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้เร็ว ตนขับรถมาเกือบ 20 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่น่ากลัวแบบนี้มาก่อน จากนี้ก็ยังจะทำงานขับรถรับจ้างโดยสารแบบนี้ต่อไป ส่วนมาตรการป้องกันเพื่อที่จะไม่เกิดปัญหาซ้ำคงจะไม่มี เพราะคนที่ขึ้นรถโดยสารก็เป็นบุคคลทั่วไปเราไม่รู้ว่าคนไหนดีหรือไม่ดี กรณีข่าวที่ออกไปและมีคนแสดงความคิดเห็นว่า ตอนเกิดเหตุทำไมไม่หนี ส่วนตัวคิดว่าคนที่แสดงความเห็นแบบนั้นเห็นแก่ตัวมาก ผู้โดยสารทุกคนตนต้องรับผิดชอบ ถ้าตัวเองทิ้งผู้โดยสารหลบหนีไป แล้ว ผู้โดยสารที่ถูกเอาไปเป็นตัวประกันจะเป็นยังไง
พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ก่อเหตุมีหมายจับอยู่ในคดีค้างเก่า 2 หมาย คือ คดียักยอกทรัพย์ในจังหวัดชัยภูมิ และคดีลักทรัพย์ที่จังหวัดหนองบัวลำภู เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์ กักขังหน่วงเหนี่ยว และอาจจะถูกข้อหาอนาจารร่วมด้วย ต้องสอบปากคำดูเจตนาอีกครั้งหนึ่ง ส่วนก็หาเสพยาเสพสารเสพติดนั้นรอผลยืนยันจากทางโรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง แต่จากการตรวจปัสสาวะพบมีผลเป็นบวก
