ลำปาง - ชาวไร่มันฯ ลำปางรวมตัวบุกศาลากลางฯซ้ำรอบสอง ทวงสัญญาการแก้ปัญหาราคามันตกต่ำ หลังจากลานมันรับซื้อเพียง กก.ละ 1.40-1.70 บาท จนขาดทุนหนัก จี้รัฐดันราคาเหนือกิโลฯ ละ 2 บาท-จ่ายเยียวยารายละ 30,000 บาท สุดท้ายก็ยังไร้คำตอบที่ชัดเจน
วันนี้ (4 มี.ค.) เครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่จังหวัดลำปาง ประมาณ 100 คน ได้รวมตัวกันเป็นครั้งที่สองเพื่อติดตามทวงถามความคืบหน้าเรื่องการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังที่ได้รับผลกระทบด้านราคาที่ลานมันรับซื้อตกต่ำจนไม่สามารถขายได้เพราะขาดทุนหนัก
หลังจากกลุ่มเกษตรกรฯ ได้รวมตัวกันที่ศาลากลาง พร้อมยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ซึ่งนางสาวเยาวเรศ แซ่โค้ว พาณิชย์จังหวัดฯ ลงมารับหนังสือแทน และมีการเชิญตัวแทนกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังฯ, ตัวแทนผู้ประกอบการลานรับซื้อมันสำปะหลัง, ตัวแทนผู้ประกอบการโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลังเข้าร่วมการประชุมเพื่อหาข้อสรุปมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเกษตรกรยื่นข้อเรียกร้อง 4 ข้อ คือ
1. ขอให้มีการรับซื้อมันสำปะหลังในราคาไม่ต่ำกว่า 2 บาทต่อกิโลกรัม 2. กลุ่มเกษตรกรอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนความรู้แก่เกษตรกร เช่น ดิน, ปุ๋ย และสายพันธุ์ที่เหมาะสมต่อการเพาะปลูกในแต่ละพื้นที่ 3. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยสนับสนุนกล้าพันธุ์ฯ 4. ให้รัฐบาลสนับสนุนเงินค่าเก็บเกี่ยวเช่นเดียวกับการออกมาตรการช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าว
แต่หลังจากนั้นสถานการณ์ไม่ได้ดีขึ้นเลย ราคารับซื้อมันสำปะหลังเมื่อวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม ณ ลานรับซื้อแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ อ.ห้างฉัตร ยังต่ำลงกว่าเดิมจาก 1.65 บาทต่อกิโลกรัม เหลือเพียง 1.50 บาทต่อกิโลกรัม ถึงแม้จะพบว่ามีลานรับซื้อแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ อ.แม่ทะ มีการปรับตัวที่สูงขึ้นจากเดิม 1.40 บาทต่อกิโลกรัมเป็น 1.60 บาทต่อกิโลกรัม แต่ก็ไม่ได้บรรเทาความเดือดร้อนได้ เพราะต้นทุนการเพาะปลูกจนถึงกระบวนการเก็บเกี่ยวอยู่ที่กิโลกรัมละ 2 บาท
วันนี้เครือข่ายเกษตรกรจึงได้รวมตัวมาทวงถามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในระยะสั้นแบบเร่งด่วน เพื่อป้องกันความเสียหายอันเกิดจากฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง คือ 1. ขอให้ช่วยรับซื้อมันสำปะหลัง ณ ลานรับซื้อมันสำปะหลังของสหกรณ์ฯ ต่างๆ, ลานรับซื้อมันสำปะหลังของผู้ประกอบการเอกชน ในราคาไม่ต่ำกว่า 2 บาทต่อกิโลกรัม และให้มีผลทันที
2. ขอให้ภาครัฐทำการประกันราคาแบบเร่งด่วน 2.50 บาทต่อกิโลกรัม และให้มีผลทันทีเช่นกัน 3. ในกรณีที่ทางภาครัฐไม่สามารถดำเนินการตามข้อเรียกร้องที่กล่าวมาได้ ขอความอนุเคราะห์ให้ช่วยดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนเงินค่าเก็บเกี่ยวโดยจ่ายให้เกษตรกรในอัตราไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 30 ไร่ต่อราย หรือคิดเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 30,000 บาทต่อราย
ต่อมาตัวแทนหน่วยงานภาครัฐได้ลงมาพบกับเกษตรกร และแจ้งว่าข้อเรียกร้องทั้งหมดทางจังหวัดไม่สามารถตัดสินใจได้ และได้ส่งเรื่องไปยังกระทรวงแล้วซึ่งต้องรอตามขั้นตอน ส่วนทางจังหวัดก็จะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วน คือ กรมการค้าภายในจะได้ประสานผู้รับซื้อมาเปิดจุดรับซื้อมันในอำเภอต่างๆ แต่ยังระบุราคาไม่ได้ ซึ่งคงไม่ต่ำกว่าที่ขายได้ในขณะนี้ และขึ้นอยู่กับค่าแป้ง หากค่าแป้งสูงราคาก็จะสูงตาม โดยจะให้ลานมันที่รับซื้อขึ้นป้ายรับซื้อราคาไว้ด้วย และจะเร่งให้มีการเปิดจุดรับซื้อให้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม แนวทางดังกล่าว หมายความว่าเกษตรกรก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนว่าจะได้ขายในราคาเท่าไหร่และจะได้ราคาที่ต้องการหรือไม่ และหากได้ราคาเท่าเดิมที่ขาดทุนเกษตรกรจะทำอย่างไรต่อไป แต่กลุ่มเกษตรกรก็ได้ทยอยแยกย้ายกันกลับในเวลาต่อมา
