กาฬสินธุ์-ประมงอำเภอสหัสขันธ์ เร่งออกสำรวจ 3 อำเภอ หลังพายุฤดูร้อนพัดถล่มกระชังปลาเสียหายอย่างหนัก เบื้องต้นมีเกษตรกรผู้เลี้ยงฯได้รับความเดือดร้อนแล้ว 5 ราย เสียหายกว่า 1 ล้านบาท เผยเขื่อนลำปาวเป็นแหล่งเลี้ยงปลากระชังขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 455 ราย จำนวนกระชัง 11,775 กระชัง
วันนี้( 3 มี.ค.) นางกฤษณา เขามีทอง ประมงอำเภอสหัสขันธ์พร้อมเจ้าหน้าที่ ลงเรือเพื่อออกตรวจและสำรวจความเสียหายของกระชังเลี้ยงปลานิล หลังเมื่อคืนที่ผ่านมา (วันที่ 2 มี.ค.) เวล ประมาณ 22.00 น. เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มในพื้นที่อำเภอสหัสขันธ์ และอำเภอหนองกุงศรีค่อนข้างรุนแรง
นางกฤษณา เขามีทอง ประมงอำเภอสหัสขันธ์ กล่าวว่า พลพวงจากพายุฤดูร้อนเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้กระชังปลาพังเสียหายเบื้องต้นมีเกษตรกรแจ้งเข้ามาแล้ว 5 ราย รายละ 1-2 หลุม มูลค่าความเสียหายประมาณ 1 ล้านบาท ในลักษณะความเสียหายมาจากแรงพายุได้พัดตัวกระชังพัง เหล็กหัก กระชังหลุด ทำให้ปลาล้นออกจากกระชังจำนวนมาก และจากการสำรวจยังพบกระชังที่ชำรุดอีกหลายกระชัง ได้แจ้งให้เกษตรกรได้เร่งเข้าปรับปรุงโดยด่วน และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์พายุฤดูร้อนที่ปีนี้มาเร็ว รุนแรง และอาจจะเกิดบ่อยครั้งกว่าทุกปี
ทั้งนี้ในการเตรียมรับมือพายุฤดูร้อน เบื้องต้นทางประมงอำเภอได้แจ้งให้เกษตรกร ได้ตรวจเช็คตัวกระชังที่ต้องเพิ่มความแข็งแรงของกระชัง เชือกที่ต้องเพิ่มขนาดใหญ่ และทุ่นผูกกระชัง ที่จะต้องแน่นหนามั่นคง อย่างไรก็ตามในห้วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคม เป็นช่วงที่เกิดพายุฤดูร้อนเป็นประจำ เกษตรกรที่เลี้ยงปลาในกระชังต้องหมั่นตรวจสอบกระชังเพื่อป้องกันความเสียหาย รวมถึงการปล่อยพันธุ์ปลาช่วงนี้มีความเสี่ยงสูง จากสภาพอากาศร้อนจัดที่อาจจะทำให้ปลาน๊อกตายได้
ในส่วนของเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากวาตภัยหรือพายุฤดูร้อนจะได้นำเรื่องแจ้งไปยังส่วนกลางเพื่อรับความช่วยเหลือจากการชดเชยผู้ประสบภัยาต่อไป” ประมงอำเภอสหัสขันธ์ กล่าว
สำหรับพื้นที่เลี้ยงกระชังปลาในเขื่อนลำปาว มีทั้งหมด 455 ราย จำนวนกระชัง 11,775 กระชัง พื้นที่เลี้ยงกว่า 269,136 ตร.กม. ซึ่งเป็นไปตามสัดส่วนที่มีการควบคุม ในการทำการประมงในเขื่อนของกรมชลประทาน