xs
xsm
sm
md
lg

จ.เลยเอาจริง! กางแผนเพิ่มพื้นที่ปลูก “มะคาเดเมีย” เกือบ 10,000 ไร่ มุ่งส่งออกผลผลิตป้อนตลาดโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เลย-จังหวัดเลย ผลักดันหลายอำเภอ ปลูกมะคาเดเมีย เผยตลาดต้องการสูงแต่ผลผลิตไม่เพียงพอ วางเป้าอีก 2 ปีเพิ่มพื้นที่ปลูกให้ถึง 9,700 ไร่ โกยเงินกว่า 1.8 แสนบาท/ไร่ ชี้จ.เลย จะเป็นแหล่งผลิตมะคาเดเมียอันดับ 1 ของไทย มุ่งขายผลผลิตสู่ตลาดส่งออก คาดสร้างรายได้กว่า 1,749 ล้านบาทเข้าจังหวัด

นายประยูร อรัญรุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ต.สานตม อ.ภูเรือ จ.เลย นายประยูร อรัญรุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานเปิดศูนย์อบรมเกษตรกร โครงการส่งเสริมการผลิตการสร้างมูลค่าเพิ่มและการตลาดสินค้าเกษตร กิจกรรมเพิ่มมูลค่าด้านการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (มะคาเดเมีย) ณ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรตำบลสานตม และแปลงมะคาเดเมียของนายบุณทัน เขาราช มีเกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย เข้าร่วม 40 ราย

นายประยูร อรัญรุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่าสำหรับข้อมูลทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกมะคาเดเมีย ปีการผลิต 2567/68 ข้อมูล ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 จังหวัดเลยมีพื้นที่ปลูกทั้งจังหวัด 5,410 ไร่ หรือประมาณ 455 ครัวเรือน อำเภอหลักๆที่ปลูกคือ ภูเรือ, ด่านซ้าย, นาแห้ว, ภูหลวง, ท่าลี่ และอำเภออื่น ซึ่งจะมีผลผลิตดีในพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเล 700-800 เมตร กระจายตัวตามอำเภอต่างๆ

มะคาเดเมียเป็นพืชที่ต้องผสมพันธุ์ข้ามต้น ดังนั้นในแปลงจึงต้องมีหลายต้นและหลายสายพันธุ์ โดยพื้นที่ของจังหวัดเลยมีหลายสายพันธุ์ที่เกษตรกรนำมาปลูก แต่สายพันธุ์ที่แนะนำ ได้แก่ พันธุ์ 344 พันธุ์ 741 หรือพันธุ์เชียงใหม่ 700 พันธุ์ 508 หรือพันธุ์เชียงใหม่ 1000 พันธุ์ 660 หรือพันธุ์เชียงใหม่ 400 ในปี 2567-2568

สำนักงานเกษตรจังหวัดเลย มีแผนจะส่งเสริมการปลูกมะคาเดเมีย ภายใต้โครงการโครงการส่งเสริมการผลิต การสร้างมูลค่าเพิ่มและการตลาดสินค้าเกษตร กิจกรรมเพิ่มมูลค่าด้านการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (มะคาเดเมีย) จำนวน 200 ราย ปี 2567 มีพื้นที่ปลูกมะคาเดเมียข้อมูลทะเบียนเกษตรกร 5,410 ไร่ และคาดว่าจะมีพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นจากการดำเนินโครงการไม่น้อยกว่า 1,000 ไร่




สำหรับแหล่งจำหน่ายผลผลิต ที่มีตามอำเภอต่างๆ เช่น อำเภอภูเรือ ประกอบด้วย ไร่ภูหมอก, ไร่ชูจันทร์ (ตำบลสานตม) บ้านไร่ใจรัก (บ้านหินสอ ตำบลปลาบ่า), ผาคูณ (บ้านหนองเสือคราง ตำบลหนองบัว), สวนพุทธมาศต์ (บ้านหินสอปลาบ่า) พื้นที่อำเภอด่านซ้าย นายสุชาติ บุตรพรม (บ้านนาลานข้าว ตำบลโพนสูง) และอำเภอนาแห้ว นายสมบัติ ทิดชิด (ตำบลแสงภา), นางกัลยณัฏฐ์ พระศรีนาม (บ้านบ่อเมืองน้อย ตำบลแสงภา)

ปัจจุบันสำนักงานเกษตรจังหวัดเลย ได้ให้ความรู้แก่เกษตรกรปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกพืชไร่เป็นมะคาเดเมียและขยายพื้นที่ปลูกไปยังอำเภอที่มีพื้นที่เหมาะสม เช่น อำเภอท่าลี่ (ตำบลน้ำทูล) อำเภอภูหลวง (ตำบลเลยวังไสย์) อำเภอหนองหิน (ตำบลปวนพุ) เพิ่มขึ้นในอีกหลายๆอำเภอ ในส่วนของด้านเทคโนโลยีด้านอารักขาพืช จะจัดให้มีการส่งเสริมและสนับสนุนแตนเบียนไข่ไตรโครแกรมม่าให้แก่เกษตรกร เพื่อแก้ไขปัญหาหนอนเจาะผลมะคาเดเมีย และส่งเสริมการใช้สารชีวภัณฑ์เพื่อความคุมโรคพืชในแปลงมะคาเดเมีย

นายประยูร กล่าวตอนท้ายอีกว่า สำหรับการเติบโต การปลูกและเพิ่มผลผลิตมะคาเดเมียนั้น ในอีก 2 ปีหรือในปี พ.ศ. 2570 มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% หรือจะมีพื้นที่ปลูกจากเดิม 5,410 ไร่เพิ่มขึ้นเป็นถึง 6,222 ไร่ และมีพื้นที่ปลูกที่ไม่มีเอกสารอื่นๆอีกประมาณ 3,500 ไร่ รวมๆประมาณ 9,721 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้ต่อไร่ประมาณ 160,000-180,000 บาทต่อไร่ มีเงินหมุนจากพืชมะคาเดเมีย 1,749 ล้านบาทในอนาคต และผลักดันให้เป็นที่ 1 ของประเทศไทยในอนาคตข้างหน้า

ปัจจุบันจังหวัดเลยมีการผลักดันให้ปลูกมะคาเดเมีย เพื่อเพิ่มมูลค่าด้านคาร์บอนเครดิต ลดโลกร้อน และการปลูกทุกพื้นที่ทุกอำเภอนั้นเป็นการลดพื้นที่เผาป่า เผาพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ ได้อีกทางหนึ่ง






ด้านนายส่องศิลป์ ทยานศิลป์ อายุ 86 ปี เจ้าของไร่ธารโอบ กล่าวว่าที่ไร่ปลูกมะคาเดเมีย มากว่า 20 ปี อนาคตของการปลูกมะคาเดเมียยังไปได้อีกไกล ซึ่งจังหวัดเลยมีแหล่งรับซื้อในพื้นที่ ปัจจุบันมีเกษตรกรที่มาจากจังหวัดตาก หรือจังหวัดเชียงใหม่นั้น เอามาขายในพื้นที่อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย ซึ่งเป็นแหล่งรับซื้อที่ใหญ่ และตลาดมะคาเดเมียตอนนี้ต่อปี ในกลุ่มผู้รับซื้อต้องการอยู่ประมาณ 500 ตันต่อปี แต่ปัจจุบันจังหวัดเลยซื้อได้แค่ 120 กว่าตันต่อปี

ตลาดมะคาเดเมีย จึงมีโอกาสให้เกษตรกรผลิตออกมาขายได้อีกมาก ซึ่งพูดได้ปัจจุบันซัพพลายยังน้อย แต่ demand ยังต้องการอีกมาก แล้วทำไมเกษตรกรจังหวัดเลยไม่หันมาปลูกมะคาเดเมีย เมื่อปลูกใหม่ๆการดูแลรักษาง่ายมาก บอกได้เลยว่าต้นไม้ชนิดนี้ คือต้นไม้เทวดาเลี้ยง ถึงเวลาเงินก็หล่นมาใส่หัวเม็ดละ 2 บาท ก็เพราะว่าเราเก็บผลผลิตจากที่มันร่วงลงมา


กำลังโหลดความคิดเห็น