อุดรธานี - เคสแรกของอุดร! ตำรวจอุดรฯ ตามอายัดบัญชีคืนเงินให้ผู้เสียหายเหยื่อคอลเซ็นเตอร์วัย 18 ปึ ได้เกือบ 2 แสนจากที่ถูกหลอกให้โอนเงินออกไปกว่า 2.6 ล้านบาท เผยชาวอุดรธานีเสียท่าแก๊งมิจฉาชีพหลอกโอนเงินมีประมาณ 10,000 กว่าราย
วันนี้ (28 ก.พ.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช รรท.ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.อุดรธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจอุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวผลการปฏิบัติงานอายัดบัญชี Call Center พร้อมคืนเงินให้ผู้เสียหาย โดยมอบเช็คเงินสด
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากวันที่ 24 พฤศจิกายน 2567 มีมิจฉาชีพโทรศัพท์มาหาผู้เสียหายซึ่งเป็นเยาวชนอายุ 18 ปี ได้ชักชวนให้ลงทุนเล่นหุ้นแต่ผู้เสียหายได้ปฏิเสธ จากนั้นคนร้ายได้พูดชื่อนามสกุลและเลขที่บัตรประชาชน บอกรายละเอียดของบ้านของผู้เสียหายและกิจกรรมต่างๆ ที่ผู้เสียหายทำ เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมาอย่างถูกต้อง ผู้เสียหายจึงเกิดความกลัว
จากนั้นคนร้ายได้บังคับผู้เสียหายเปิดกล้องโทรศัพท์และวิดีคอล คนร้ายได้บังคับให้ผู้เสียหายโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันธนาคารบนมือถือของผู้เสียหายไปยังบัญชีธนาคารของคนร้ายและคนร้ายยังใช้อุบายให้ผู้เสียหายใช้โทรศัพท์ของพ่อแม่โอนเงินไปให้คนร้าย พร้อมข่มขู่ ได้เงินไป 2,655,000 บาท ซึ่งผู้เสียหายกลัวจึงได้ทำตาม ต่อมาพ่อแม่รู้เรื่องจึงเข้ามาแจ้งความ กระทั่งตำรวจสามารถอายัดบัญชีไว้ได้ โดยเงินยังคงในบัญชี 184,990 บาท มาคืนแก่ผู้เสียหาย
พล.ต.ต.สุวรรณ์เปิดเผยว่า จากการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งทำงานได้อย่างรวดเร็ว ตำรวจสามารถอายัดบัญชีคนร้ายไปได้ 1 บัญชี ได้เงินประมาณ 1.8 แสน ซึ่งเงินจำนวนนั้นเป็นของคุณพ่อ ในส่วนของคุณแม่ คนร้ายเมื่อได้เงินไปแล้วได้แปลงเป็นเงินสกุลดิจิทัลไปแล้วก่อนอายัด จากการขยายผลติดตามพบว่าส่วนเงินที่โอนเข้าไปนั้นเป็นบัญชีม้าทั้ง 3 บัญชี ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวน โดยกลุ่มมิจฉาชีพนี้ตำรวจเชื่อว่ามีฐานที่ตั้งอยู่ที่ฝั่งตะวันออกชายแดนประเทศไทย สำหรับตัวเลขภาพรวมมีประชาชนชาวจังหวัดอุดรธานีถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกโอนเงินประมาณ 10,000 กว่าราย
ด้านนางธนพร อายุ 53 ปี แม่น้องออม อายุ 18 ปี ผู้เสียหาย (สงวนสกุล) บอกว่า ก่อนที่ลูกสาวโอนเงินให้มิจฉาชีพ มิจฉาชีพโทร.มาหาลูกสาวบอกว่ารู้ข้อมูลส่วนตัวทุกอย่างและจะติดตามไปทุกที่ น้องจึงหลงเชื่อและถูกบังคับ ตอนแรกแม่ก็ยังไม่รู้น้องบอกกับแม่ว่าขอเงิน 100 บาทจะไปสมัครเรียน จากนั้นน้องก็มาขอยืมโทรศัพท์แม่บอกว่าโทรศัพท์ใช้อินเทอร์เน็ตไม่ได้ แม่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร ก็เอาโทรศัพท์ให้ลูกสาว ซึ่งลูกก็ทำแบบนี้กับพ่อ มารู้อีกทีลูกสาวโอนเงินไปให้มิจฉาชีพแล้ว 5 แสนกว่าบาท
ส่วนบัญชีของพ่อโอนไปเกือบ 2 ล้านบาท กระทั่งมาแจ้งความตำรวจให้ช่วยอายัดบัญชีได้ทันและได้เงินคืนจำนวนหนึ่ง สำหรับน้องเป็นคนเงียบๆ ถ้าน้องบอกแม่ก่อนหน้าคงไม่ถูกหลอก