ลำปาง - ตำรวจตั้งด่านฯ-ลงพื้นที่สแกนตามป่า/หมู่บ้าน ตลอดทางเกาะคา-ลี้..ล่าคนร้ายเผา 6 ล้อขนยาบ้าทิ้งริมถนน ก่อนแยกย้ายหนี ตร.ปส.ที่แกะรอยไล่จับ ล่าสุดจับได้แล้ว 2 เป็นหญิงขับรถนำ 1 อีกคนเป็นชายมากับรถบรรทุกยานรก แต่ยังหนีได้ข้ามคืนอีก 2 ราย
เจ้าหน้าที่ สภ.เสริมงาม จ.ลำปาง แจ้งเตือนประชาขนในพื้นที่อำเภอเสริมงามให้ใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากมีคนร้ายหลบหนีหลังทำการเผายาบ้าหลังรถบรรทุกที่ใช้หลบหนี บริเวณบ่อดินใกล้ถนนสายเกาะคา-ลี้ บ้านแม่กึ๊ด หมู่ 1 ต.ทุ่งงาม อ.เสริมงาม เมื่อเวลา 03.30 น. 26 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา
ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุม นายคุณานนต์ (นั่งมากับรถบรรทุกขนยาเสพติด) และผู้ต้องหาหญิงอีก 1 ราย เป็นคนขับรถนำทาง รวมเป็น 2 ราย แต่ยังหลบหนีอีก 2 ราย คือ นายวีรพล และ นายราเชนทร์ (ถูกปล่อยตัวในคดียาเสพติดเมื่อ 6 ก.พ. 59) เบื้องต้นผู้ร้ายหลบหนีไม่มียานพาหนะในการใช้เดินทางหลบหนี และอาจจะมีแผลพุพองตามร่างกาย
พ.ต.อ.วรเชษฐ สกิจกัน ผกก.สภ.เสริมงาม เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวทาง สภ.เสริมงามได้รับแจ้งจากวิทยุ 191 ภูธรจังหวัดลำปาง เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 26 ก.พ.ว่าชุดปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้ติดตามคนร้ายที่ลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่จังหวัดลำปาง
ปรากฏว่าคนร้ายพยายามหลบหนีไปในเส้นทางที่เป็นบ่อลูกรัง ก่อนที่รถจะไปต่อไม่ได้ จึงจุดไฟเผายาเสพติดบนหลังรถบรรทุกหกล้อแล้วแยกย้ายหลบหนี ซึ่ง บช.ปส.ก็ติดตามมา และประสานให้ตำรวจ สภ.เสริมงามช่วยสกัด จึงได้นำเจ้าหน้าที่ตั้งด่านสกัดทั้งในถนนสายหลักและสายรอง พร้อมให้กำลังติดตามในพื้นที่บ้านเรือนของชาวบ้านที่คาดว่าคนร้ายจะเข้าไปหลบซ่อนตัว เนื่องจากไม่มียานพานหนะหลบหนี
กระทั่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาเป็นหญิง 1 รายคนขับรถนำ ส่วนผู้ต้องหาที่มากับรถหกล้อ ทราบว่ามีทั้งหมด 3 คน จับได้แล้ว 1 คน (นายคุณานนต์) บนถนนสายเกาะคา-ลี้ เขตติดต่ออำเภอเกาะคากับอำเภอเสริมงาม อีก 2 คนที่ยังหลบหนีอยู่ ซึ่งได้ให้ตำรวจสายตรวจ สภ.เกาะคา และ สภ.เสริมงาม ดูในส่วนของถนนสายหลัก สายเกาะคา-ลี้ และเข้าไปในหมู่บ้าน รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ผู้นำหมู่บ้านประกาศตามสื่อต่างๆ ให้ หากผู้ใดพบเห็นสามารถแจ้งเบาะแสเพิ่มเติมได้ที่ สภ.เสริมงาม หรือโทรศัพท์ 0-5428-6119
สำหรับจำนวนยาบ้าที่บรรทุกมาคาดว่าจะมีจำนวนมาก แต่ด้วยที่เผาไปแล้วจึงไม่ทราบแน่นอนแต่ยังมีส่วนที่เหลือเศษจากการเผาประมาณสามหมื่นเม็ด ซึ่งทางพิสูจน์หลักฐานและ บช.ปส.ต้องไปตรวจสอบพิสูจน์น้ำหนักอีกครั้ง