พระนครศรีอยุธยา - อยุธยาไม่สิ้นคนดี หนุ่มพลดีเก็บเงินครึ่งหมื่นได้หน้าร้านชำส่งให้เจ้าของร้านตามหาคืนเจ้าของ เจ้าของเงินสุดดีใจได้คืนเพราะเป็นเงินลงทุนในการประกอบอาชีพ
วันนี้ (26 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งมีพลเมืองดีเก็บเงินครึ่งหมื่นได้หน้าร้านขายของชำในชุมชน หมู่ที่ 6 ตำบลสวนพริก อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบพบกับ น ส.ธนรรฆ สุขอุดม อายุ 43 ปี เจ้าของร้านขายของชำ ชื่อ ร้านรวมทรัพย์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 6 ตำบลสวนพริก พร้อมเปิดภาพกล้องวงจรปิดให้ผู้สื่อข่าวดู
กล้องบันทึกเหตุการณ์มีรถกระบะของ 2 สามีภรรยามาส่งน้ำดื่มให้ที่ร้าน จังหวะออกจากร้าน ภรรยาได้ลงจากรถเพื่อมาดูรถให้สามี ถอยหลังออก ซึ่งเป็นจังหวะที่ทำเงินหล่นไว้บนพื้นหน้าร้าน ก่อนขับออกไป หนุ่มพลเมืองดีซึ่งมาซื้อถ่านที่ร้านเดินนำถุงถ่านที่ซื้อไปไว้ที่รถหันมาเห็นเงินตกอยู่ จึงหยิบมาให้เจ้าของร้านเพื่อตามหาเจ้าของ
น.ส.ธนรรฆ เจ้าของร้านเล่าว่า ตอนเช้าวันนี้น้องเจอเงินตกอยู่จึงหยิบมาให้ตนซึ่งเป็นเจ้าของร้านบอกว่าใครทำเงินตกอยู่ เขาหยิบมาให้ ซึ่งตอนแรกตนไม่รู้ของใคร จึงได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้าน ซึ่งพบว่าก่อนที่น้องพลเมืองดีจะเจอ มีคนขับรถส่งของส่งน้ำดื่มมาส่งที่ร้าน ซึ่งตอนแรกยังไม่ได้โทรไปสอบถาม ตอนนี้ได้โทรไปสอบถามเขาแล้ว เขารู้สึกดีใจ เพราะเป็นเงินจำนวนมาก ตนคิดว่าถ้าเงินจำนวนนี้หายไปเขาคงจะเดือดร้อนเพราะมีอาชีพค้าขายเหมือนกัน พอรู้ว่าเจ้าของคือใครก็ดีใจกับเขา เพราะก่อนหน้านี้มีคนมาที่ร้านถ้าเห็นก่อนไม่รู้จะคืนให้เหมือนน้องพลเมืองดีคนนี้ เพราะน้องคนนี้เป็นลูกค้ามาซื้อของประจำ
ต่อมานายธนสิทธิ์ วิชาดี อายุ 49 ปี คนส่งน้ำพอทราบรีบเดินทางมาที่ร้านทันที พร้อมกล่าวว่าจำนวนเงินเป็นปึกมัดไว้ มีแบงก์พัน แบงก์ห้าร้อย แบงก์ร้อย รวมจำนวน 5,000 บาท ทางร้านจึงคืนให้เจ้าของ นายธนสิทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า มารู้ว่าหายตอนที่ส่งของที่ร้านนี้เสร็จ ตนและภรรยาไปนั่งกินโจ๊ก ยังคิดอยู่ว่าเราไปทำหล่นที่ไหน กำลังพยายามนึก มาดูในรถก็ไม่มี เพราะยังคิดอยู่ว่าถ้าหายไปแล้วไม่รู้จะไปหาตรงไหน ซึ่งจุดที่มาส่งของมีพื้นที่ไม่กว้างมาก จะมีช่วงที่แฟนลงจากรถเพื่อดูรถโบกรถให้ แล้วก็ไปนั่งกินโจ๊ก
ซึ่งเงินตรงนี้ถ้าไม่ได้คืนจะเดือดร้อนอย่างแรง เพราะเป็นทุนของเรา ต้องขอบคุณน้องเจ้าของร้านมาก ตอนแรกแฟนเครียดมาก เพราะเขาเป็นคนถือตังค์ ตอนที่ร้านโทรไปรู้สึกโล่ง ทั้งนี้ ทั้งเจ้าของร้าน เจ้าของเงิน ได้เดินทางไปหาพลเมืองดี ซึ่งเป็นร้านหมูหัน ชื่อร้านหมูหันอะตอม ซึ่งอยู่ห่างไปไปประมาณ 1 กิโลเมตร อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลสวนพริก พบกับนายวชิรวิทย์ เตชรัตนวรกุล อายุ 25 ปี กำลังทำงานอยู่ ด้านนายธนสิทธิ์ รีบเดินเข้าไปขอบคุณอย่างมาก ถ้าไม่ได้น้องพี่คงแย่
นายวชิรวิทย์ พลเมืองดี เล่าว่า ตอนนั้นตนไปซื้อถ่านที่ร้านพี่เขาเพื่อมาหันหมู พอยกขึ้นท้ายรถหันมาเจอเงินตกอยู่ และหยิบไปให้เจ้าของร้าน ซึ่งคิดว่าเงินนั้นถ้าเจ้าของเขาคงเดือดร้อนถ้าหายไป เพราะไม่ใช่เงินของเรา ก็ดีใจแทนพี่เขาที่ได้คืน เพราะถ้าเป็นเรา เงิน 100-200 เราก็ใจเสียแล้ว ก็ดีใจกับพี่เขาด้วย