ศูนย์ข่าวนครราชสีมา-"มารุต"อดีตผู้สมัครนายก อบจ.โคราช บุก กกต.ยื่นคัดค้านรับรอง "มาดามหน่อย" นายก อบจ.โคราช เหตุสอบโอนงบ 23 ล้านบาทมิชอบยังไม่แล้วเสร็จ เรื่องยังค้างอยู่ที่ กกต.ซัดขัดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น
ภายหลังจากวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศรับรอง "นางยลดา หวังศุภกิจโกศล" หรือ "มาดามหน่อย" จากพรรคเพื่อไทย เปืนนายก อบจ.นครราชสีมาอีกสมัย หลังชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ด้วยคะแนนถล่มทลาย 621,822 คะแนน ทิ้งห่างคู่แข่ง 3 ราย พร้อมกันนี้ กกต.ยังรับรองผล ส.อบจ.นครราชสีมา ครบทั้ง 48 เขต 32 อำเภอ ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (26 ก.พ.) เวลา 13.00 น. นายมารุต ชุ่มขุนทด อดีตผู้สมัครนายก อบจ.นครราชสีมา หมายเลข 3 พร้อมด้วยนายสุนทร แพงไพรี ผู้ร้องเรียนฯ ได้เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครราชสีมา เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งนายก อบจ. และ ส.อบจ.นครราชสีมา โดยมีนายไพฑูรณ์ ถนัดหมอ รอง ผอ.กกต.ประจำจังหวัดนครราชสีมา รับเรื่องไว้แทนนายสุรพงษ์ ทิพย์โอสถ ผอ.กกต.ประจำจังหวัดนครราชสีมา ที่ติดภารกิจต่างจังหวัดอยู่
นายสุนทร แพงไพรี ผู้ร้องเรียนฯ กล่าวว่า จากกรณีที่เมื่อวันที่ 3 ม.ค.68 ตนได้ยื่นหนังสือให้ ก.ก.ต.ประจำจังหวัดนครราชสีมา ตรวจสอบนางยลดา หวังศุภกิจโกศล ผู้สมัครนายก อบจ.นครราชสีมา หมายเลข 2 ของพรรคเพื่อไทย และพวกอีก 35 คน ที่เป็น ส.อบจ. กรณีมีการโอนงบประมาณ จำนวน 23 ล้านบาทโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ชุดสอบสวน ก.ก.ต.ประจำจังหวัดนครราชสีมา อยู่ระหว่างเรียกผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด มาสอบสวน เนื่องจากข้อร้องเรียนมีมูล และทางพนักงานสอบสวนของ ก.ก.ต.ประจำจังหวัดนครราชสีมา ยังไม่ได้สรุปสำนวนส่งไปให้ ก.ก.ต.ส่วนกลางเลย เพราะต้องเรียกสอบสวนผู้ถูกร้องเรียนจำนวนมาก
แต่ปรากฏว่าเมื่อวานนี้ (25 ก.พ.) ก.ก.ต.ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งนายก อบจ. และ ส.อบจ.นครราชสีมา ไปครบแล้ว ซึ่งการประกาศรับรองผลครั้งนี้ ขัดต่อ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ.2566 มาตรา 17 ที่กำหนดไว้ว่า “ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด ตามพระราชบัญญัตินี้ เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผลการเลือกตั้งนั้นเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ให้ประกาศผลการเลือกตั้งภายใน 30 วัน นับแต่วันเลือกตั้ง ในกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม
ไม่ว่าจะมีผู้ร้องเรียนกล่าวโทษหรือไม่ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งดำเนินการสืบสวนหรือไต่สวนให้แล้วเสร็จและประกาศผลการเลือกตั้ง หรือจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ หรือดำเนินการอื่นที่จำเป็น แล้วแต่กรณีโดยเร็ว แต่ต้องไม่ช้ากว่า 60 วัน นับแต่วันเลือกตั้ง” ดังนั้นตนเองจึงอยากทราบว่า ก.ก.ต.ใช้หลักการใดในการประกาศรับรองผล เพราะถ้ายึดตามข้อกฎหมายนี้ จะไม่สามารถประกาศรับรองผลได้เลย
ด้านนายมารุต ชุ่มขุนทด อดีตผู้สมัครนายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า ตนเองในฐานะเป็นอดีตผู้สมัครนายก อบจ.นครราชสีมา หมายเลข 3 ซึ่งมีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง เมื่อทราบข่าวว่าทาง ก.ก.ต.ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง นายก อบจ.และ ส.อบจ.นครราชสีมา ไปครบทุกคนแล้วเมื่อวันที่ 25 ก.พ.68 ที่ผ่านมา ทั้งที่ยังมีเรื่องร้องเรียนซึ่งอยู่ระหว่างสอบสวนไต่สวนอยู่ ก็ได้เดินทางมาทวงถามหาความยุติธรรม เนื่องจากกระบวนการประกาศรับรองผลไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ถึงแม้ว่าอำนาจของ ก.ก.ต.จะสามารถแจกใบเหลือหรือใบแดงในภายหลังได้ แต่กรณีนี้ขัดต่อ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ.2566 มาตรา 17 อย่างชัดเจนอยู่แล้ว และ ก.ก.ต.ประจำจังหวัดนครราชสีมา ก็ส่งเรื่องร้องเรียนให้ ก.ก.ต.ส่วนกลางทราบอย่างต่อเนื่อง
แต่เหตุใด ก.ก.ต.ยังฝืนประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอีก ซึ่ง ก.ก.ต.ก็ต้องออกมาชี้แจงให้ประชาชนหายสงสัยก่อน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องของโคราชอย่างเดียว แต่จะมีผลต่อการใช้อำนาจหน้าที่ของ ก.ก.ต.ต่อไปในอนาคตอีกด้วย.
