จันทบุรี - เหิมหนักขบวนการรุกป่าจันทบุรี พบพื้นที่ป่าต้นน้ำและพื้นที่ประกาศกฎอัยการศึกแนวชายแดนขลุง ถูกแผ้วถาง ตัดไม้กินเเนื้อที่เกือบ 100 ไร่ ผงะต้นตะเคียนใหญ่ขนาด 3 คนโอบ อายุกว่า 100 ปี ถูกกานหวังให้ยืนต้นตาย บางต้นถูกเจาะรูหยอดยาฆ่าต้นไม้หวังให้กลายเป็นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมง่ายต่อการถือครอง หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งยึดคืน
วันนี้ (26 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดถึงความคืบหน้าการขยายผลตรวจสอบขบวนการบุกรุกแผ้วถางป่า และตัดต้นไม้ใน จ.จันทบุรี ของกลุ่มนายทุนและชาวบ้านบางส่วนว่า จากการสนธิกำลังร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหาร กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน จันทบุรี (ฉก.นย.จันทบุรี) นายอำเภอขลุง เจ้าหน้าที่ ขสป.คลองเครือหวาย สำนักจัดการทรัพยากรที่ 9 ชลบุรี หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ 5 จันทบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตกพรม รวมทั้ง สภ.ขลุง เข้าตรวจสอบพื้นที่ ม.3 ม.4 และ ม.6 ต.บ่อเวฬุ อ.ขลุง สามารถแจ้งความดำเนินคดีกับบุกรุกได้แล้วทั้งหมด
โดยพบพื้นที่ ม.3 มีการบุกรุกป่ากว่า 2 ไร่ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองเครือหวายเฉลิมพระเกียรติ ส่วน ม.4 พบการบุกรุกประมาณ 25 ไร่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองเครือหวายเฉลิมพระเกียรติ และ ม.6 มีบุกรุก 4 พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าตกพรหม รวมจำนวนเนื้อที่กว่า 61 ไร่ โดยทั้งหมดอยู่ในเขตป่าต้นน้ำ
นอกจากนั้น ยังพบต้นไม้ใหญ่ เช่น ต้นตะเคียน ขนาด 3 คนโอบ อายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี ถูกกาน (ตัดท่อน้ำเลี้ยง) ที่โคนต้น ขณะบางต้นมีการเจาะรูเพื่อใช้ยาฆ่าต้นไม้หยอด ด้วยหวังให้ต้นไม้ยืนต้นตายเพื่อสร้างลักษณะพื้นที่ให้กลายเป็นป่าเสื่อมโทรม เพื่อให้ง่ายต่อการบุกรุกถือครองที่ดิน
ทั้งนี้ ข้อมูลจากหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน จันทบุรี (ฉก.นย.จันทบุรี) ยังระบุอีกว่าพื้นที่ที่มีการบุกรุกทั้งหมดอยู่ในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความมั่นคงสูงชายแดน ที่หากใครจะเข้าไปทำการใดๆ เกี่ยวกับทรัพยากรป่าไม้จะต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน
โดยในพื้นที่ จ.จันทบุรี มีพื้นที่ที่มีการประกาศกฎอัยการศึก รวม 3 อำเภอคือ อ.โป่งน้ำร้อน สอยดาว และ อ.ขลุง ซึ่งหลังจากนี้ หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน จันทบุรี (ฉก.นย.จันทบุรี) จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและสวนเกษตรที่มีการบุกรุก เพื่อฟื้นคืนสภาพป่าให้กลับมาสวยงามตามธรรมชาติดังเดิม