อุบลราชธานี - อ.สิรินธรปลุกกระแสรณรงค์ไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า หลังพบเด็กป่วยอาการหนักจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้านาน 4 ปี พร้อมไม่เห็นด้วยให้บุหรี่ไฟฟ้าขายอย่างเสรี เผยน่าเป็นห่วงแนวโน้มเด็กเยาวชนใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น และครู-ผู้ปกครองและผู้นำชุมชนหรือแม้แต่ อสม.ต้องช่วยกันสอดส่องดูแลเด็กกลุ่มเสี่ยงอย่างใกล้ชิด
ที่โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 87 อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี นายอุทัย อรัมสัจจากุล นายอำเภอสิรินธร ร่วมกับนายยอดรัก บุรวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 3 และนายแพทย์เพียรศักดิ์ แซ่หว่อง กุมารแพทย์โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จัดรณรงค์ชาวอำเภอสิรินธรไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า โดยมีนักเรียน พร้อมผู้นำชุมชนเข้าร่วมรณรงค์ต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งกำลังแพร่ระบาดเข้าสู่ชุมชนหลายแห่งของจังหวัดอุบลราชธานี
นายอุทัย อรัมสัจจากุล นายอำเภอสิรินธร กล่าวถึงการรณรงค์ครั้งนี้ เพราะพบว่าจังหวัดอุบลราชธานีมีการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในหมู่เด็กและเยาวชน แม้ในพื้นที่อำเภอสิรินธรไม่ค่อยมี แต่ก็ไม่ได้มองข้ามภัยอันตราย จึงจัดกิจกรรม UB MOVE ชาวสิรินธรไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดในพื้นที่ โดยได้รับความร่วมมือจากผู้อำนวยการสถานศึกษาและภาคีเครือข่ายในอำเภอ และเน้นไปที่กลุ่มเด็กและเยาวชนให้รู้เท่าทันพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาด นอกจากมีการกวดขันจับกุมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็มีการขอความร่วมมือจากร้านค้าไม่ให้นำบุหรี่ไฟฟ้ามาจำหน่ายในพื้นที่อย่างเด็ดขาด พร้อมให้ผู้ปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.เฝ้าจับตาดูเยาวชนมีการไปใช้บุหรี่ไฟฟ้าหรือไม่ หากพบก็ให้ไปพูดคุยทำความเข้าใจกับเด็กเหล่านั้นให้รู้ถึงภัยของบุหรี่ไฟฟ้าและเลิกยุ่งเกี่ยวด้วย
ด้านการป้องกันไม่ให้บุหรี่ไฟฟ้าแพร่ระบาดเข้าสู่โรงเรียนตามชุมชนต่างๆ นายยอดรัก บุรวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 3 กล่าวว่า จากข้อห่วงใยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีการตั้งศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัยบุหรี่ไฟฟ้าและภัยพิบัติต่างๆ ในสถานศึกษา
จากข้อมูลพบว่าเยาวชนอายุระหว่าง 13-15 ปี เริ่มมีการใช้บุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น และยังรวมไปถึงชั้นประถมศึกษา จึงมีการสั่งการไปยังผู้อำนวยการสถานศึกษาตรวจสอบดูแลนักเรียนให้ป้องปรามการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา ซึ่งจากการตรวจสอบในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 3 ไม่ค่อยพบเด็กนักเรียนใช้บุหรี่ไฟฟ้า แต่อย่างไรก็ต้องมีการป้องปรามผ่านครู และผู้ปกครองที่ต้องเข้ามาช่วยกันดูแลลูกหลานของตนเองด้วย
ส่วนนายแพทย์ เพียรศักดิ์ แซ่หว่อง กุมารแพทย์โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ กล่าวว่า พิษของบุหรี่ไฟฟ้ามีมากกว่าบุหรี่มวนกว่า 20 เท่า ซึ่งในห้วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาพบมีเด็กป่วยจากพิษของบุหรี่ไฟฟ้า บางคนใช้บุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่อายุ 10 ขวบจนถึง 14 ปี ทำให้ปอดเสียหายอย่างมาก และพบเยาวชนเริ่มเจ็บป่วยมากขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องลุกขึ้นมาบอกสังคมถึงเรื่องราวการเจ็บป่วยของเด็กผ่านสื่อใกล้ตัวทางสังคมออนไลน์ส่งถึงเยาวชนให้ทราบถึงภัยของบุหรี่ไฟฟ้า ปรากฏมีเสียงตอบรับจากประชาชนและเยาวชนไม่รู้ว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีพิษภัยร้ายแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ พร้อมทั้งไม่เห็นด้วยที่จะให้ขายบุหรี่ไฟฟ้าได้อย่างเสรี เพราะเป็นอันตรายต่อลูกหลานเยาวชนของเราอย่างมากด้วย
สำหรับอำเภอสิรินธร ในปีงบประมาณ 2567-2568 มีผู้ป่วยจากสารเสพติดอยู่ในความดูแลของแพทย์จำนวน 92 ราย โดยในจำนวนนี้แม้ยังไม่มีผู้ป่วยจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นนำไปสู่สารเสพติดชนิดต่างๆ เช่น ยาบ้า กัญชา น้ำกระท่อม และบางรายก็ใช้สารเสพติดร่วมกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้า จึงหันมาเร่งรณรงค์ให้เห็นถึงพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้าที่เยาวชนเข้าถึงได้ง่าย เพื่อเป็นการป้องปรามและสกัดไม่ให้เด็กได้รับสารพิษจากบุหรี่ไฟฟ้าจนกลายเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขในอนาคต