สระบุรี - เจ้าของบ้านเดือดร้อนหนัก หลังถูกเจ้าของที่ข้างเคียงกลั่นแกล้ง ทำร้ายร่างกาย ทุบกระจก โยนฉี่ใส่บ้าน โดยอ้างว่าปลูกบ้านล้ำเขต แจ้งให้เจ้าหน้าที่มาทำการรังวัดที่ดินก็ไม่จบ แจ้งความมา 3 รอบแล้ว ตำรวจยังทำอะไรไม่ได้
วันนี้ (25 ก.พ.) จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Jin Apinya ได้โพสต์แชร์คลิปวิดีโอและรูปภาพลงในเพจข่าวด่วนสระบุรี พร้อมกับระบุข้อความไว้ว่า ช่วยแชร์หน่อยนะคะ ทางบ้านเดือดร้อนมากค่ะ ในอำเภอพระพุทธบาท หลังโรงพยาบาล ทางบ้านกำลังเริ่มก่อสร้างบ้าน แต่เราสร้างในพื้นที่ของเรานะคะ เจ้าของที่ข้างหลังบ้านมากล่าวหาว่า พื้นที่บ้านเราเลยไปที่ของเขา เขามาขู่ว่าให้เราไปเซ็นสัญญาอะไรสักอย่าง ซึ่งเราไม่ยอมค่ะ ทางเราให้เขาไปขอรังวัดมาวัดให้จบๆ ไป แต่เขาไม่จบค่ะ มากลั่นแกล้ง ครั้งที่ 1 โดยนำไม้มากระแทกกระจกให้แตก และได้ทำร้ายร่างกายตัวพี่ที่ขึ้นไปถ่ายคลิปด้วยค่ะ มีคลิปหลักฐาน ครั้งที่ 2 ได้ปาก้อนหินขึ้นหลังคา ทำให้ตอนนี้หลังคาเป็นรูเลยค่ะ ตามภาพด้านล่าง ครั้งที่ 3 ล่าสุด นำถุงปัสสาวะมาปาใส่ในบ้าน
ตอนนี้ยังไม่สลดค่ะ ไปแจ้งความมา 3 รอบแล้ว ตำรวจยังทำอะไรไม่ได้ ยิ่งได้ใจใหญ่เลย ตอนนี้ทางบ้านมีผู้หญิงอยู่แค่ 2 คน แล้วสูงอายุทั้งนั้นเลย ฝากช่วยแชร์ถึงผู้ใหญ่หน่อยนะคะ รีบเข้ามาจัดการให้หน่อยค่ะ ดูเขาไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้นเลย ตอนนี้คนที่บ้านอยู่อย่างหวาดกลัวมากค่ะ
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าของเฟซบุ๊ก จึงทราบว่าเป็นหลานของผู้เสียหายและได้เดินทางไปที่บ้าน ของ น.ส.นาฎยา พร้อมเชื้อแก้ว อายุ 58 ปี เจ้าของบ้าน ต.ธารเกษม อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี หลังโรงพยาบาลพระพุทธบาท โดย น ส.นาฎยา พร้อมเชื้อแก้ว อายุ 58 ปี เจ้าของบ้าน ได้นำไปชี้จุดร่องรอยความเสียหาย มีหลังคากระเบื้องแตกเป็นรู 3 รู ถุงฉี่ 3 ถุง และกระจกบานเกล็ดหน้าต่าง แล้วนำพาไปชี้จุดขอบเขตที่กำแพงของบ้านและได้นำหลักฐานการแจ้งความ 3 ใบ ที่ได้ร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี
น.ส.นาฎยา กล่าวว่า ตนเป็นเจ้าของบ้าน แต่ไม่ใช่เจ้าของที่ เจ้าของที่คือแม่ อาศัยอยู่มาประมาณ 40 กว่าปีแล้ว ปัญหาที่เกิด เขาหาว่าเรารุกล้ำเข้าไปในที่เขาเราบอกเขาว่าเอาหลักฐานมายืนยันเขาจะให้เราไปเซ็นอะไรให้เขา เราบอกให้เอาหลักฐานมายืนยัน แต่เขาไม่เคยเอามาให้ดู เขาเรียกร้องให้เราเซ็นว่าเราล้ำเข้าไปในที่เขาเราไม่ยอมเซ็นเขาเลยโมโห
ล่าสุดเข้ามาทุบมาทําร้ายร่างกาย แล้วก็ปาถุงฉี่เข้ามา เมื่อวานมาปาถุงฉี่อีก เขาทำแบบนี้แทบทุกวัน เหม็นไปหมด แล้วเราอยู่อย่างหวาดกลัว ไปแจ้งความมาแล้ว 3 ครั้ง เราอยากให้จบไม่ให้มาวุ่นวายกับเราแล้วให้เขาชดใช้ค่าเสียหายที่ทำลายบ้านเรารวมถึงค่าทพขวัญกรณีทำร้ายร่างกาย
ต่อมา ทางผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปทางนายศิวกรณ์ ด่านชัยมงคล อายุ 55 ปี เจ้าของที่ดินที่เป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีที่ดินอยู่ชิดติดกันกับผู้เสียหาย โดยนายศิวกรณ์ ด่านชัยมงคล อายุ 55 ปี เจ้าของที่ดินที่เป็นผู้ก่อเหตุ ได้มายืนรอถือเอกสารการครอบครองที่ดิน พร้อมด้วยสุนัขจำนวนกว่า 20 ตัว ได้เล่ารายละเอียด ว่า ตนเป็นเจ้าของที่ดินผืนนี้ ปัญหาที่เกิดเพราะว่าเจ้าของที่ที่ติดกันไม่ปฏิบัติตามระเบียบเทศบาล และระเบียบของสํานักงานที่ดิน คือวางหลักเกณฑ์ อยากจะรุกล้ำก็รุกล้ำ ทํารั้วเข้ามาแล้วยกหลักเขตมาแปะเอาเอง ซึ่งมันผิดกฎหมายไม่มีใครเขาทํากัน ตลอดทั้งแถบมีประมาณ 5 หลัง ก็เหมือนว่าเขารุกล้ำ คือมีบ้านหลังหนึ่ง รื้อถอนออกไปแล้ว ตนทักท้วงไปแล้วว่าให้ทํากลับเข้าไปตามแนวเขต
การขออนุญาตรื้อถอนปลูกสร้างใหม่ไม่ขออ้างว่ามันเขตบ้านฉัน ฉันมีสิทธิทํา ซึ่งมันไม่ถูก ตามกฎหมายมันผิด แล้วในส่วนเรื่องที่ตนเองไปทำลายทรัพย์สิน ถ้าไม่จุดประกายตรงนี้จะมีใครมามั๊ย ที่ผ่านมาร้องไปที่ศูนย์ดำรงธรรมก็บอกว่าคิวไม่ว่าง ก็ร้องไปเหมือนกันหลายที่ แต่พอเขาร้อง ก็มากันเลย แล้วจะให้ตนทํายังไง
“ตนเจึงต้องยอมเปลืองตัว และถ้าทําร้ายร่างกายนะเขาตายไปแล้ว ซึ่งในตอนนั้นตนเอาไม้ไปกระแทกกระจกบ้านเขา เพื่อให้ทําตามกฎหมาย ยอมทําผิดกฎหมายตรงนี้ เพื่อให้เขาทําถูกกฎหมาย เพราะว่าเขาละเมิดกฎหมาย และในส่วนตรงนี้เราได้ยื่นข้อเสนอไปแล้วนะ ให้ไปทําหนังสือกันที่ศูนย์ดำรงธรรมใหม่ จากฉบับเก่าที่ทําเอาไว้ มันยุติไปแล้วด้วย เหตุที่ว่าเขารื้อบ้านออกไป เมื่อปี 51 เราทํากันไว้แล้วว่า ส่วนที่รุกล้ำเกินอะไรกันเข้ามา เราให้อาศัยได้อยู่ชั่วคราว ไม่ให้ยึดถือเป็นกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของในเมื่อเขารื้อออกไปแล้ว ข้อตกลงกล่าวเป็นอันยุติ เพราะฉะนั้นถ้าอยากอยู่ก็ไปทํา แต่ตอนนี้ตนไม่ทําแล้ว ให้รื้อกลับไปตามแนวเขตที่สอบเขตเลย คือข้อยุติ”