สระแก้ว - ชายแดนสระแก้วยังไม่มีความเคลื่อนไหว หลังทางการกัมพูชายังไม่ปล่อยตัว 227 แก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งชาวไทยและต่างชาติกลับดำเนินคดีในไทย ส่งผลบรรดาญาติของผู้ที่ถูกหลอกไปเป็นเหยื่อซึ่งเดินทางมารอตั้งแต่เช้าต้องพากันรอเก้อ คาด 5 คนไทยที่โดนหมายจับจะถูกส่งตัวมาล็อตแรก
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยได้เดินทางไปร่วมประชุมปรึกษาหารือกับตำรวจกัมพูชา เกี่ยวกับการปราบปรามและกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง หลังก่อนหน้านี้ตำรวจไทยได้รับการประสานจากเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ทำงานอยู่ในแก๊งคอลเซ็นเตอร์บนตึกสีฟ้า 4 ชั้นในเมืองปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย และได้แอบส่งข้อความรวมทั้งคลิปวิดีโอขอความช่วยเหลือจนสามารถสืบทราบถึงแหล่งกบดานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชุดดังกล่าว
จนนำไปสู่การบุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งกัมพูชา และสามารถช่วยเหลือเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ทั้งหมด 227 คน มีทั้งชาวไทย อินโดนีเซีย อินเดีย และปากีสถาน ซึ่งเหยื่อทั้งหมดเจ้าหน้าที่กัมพูชาได้นำตัวไปคัดกรองก่อนส่งต่อให้ประเทศไทยโดยใช้ช่องทางจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก บนพื้นที่สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ในอีก 1-2 วันหลังภารกิจเสร็จสิ้นนั้น
วันนี้ (24 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ซึ่งกำหนดให้เป็นจุดส่งตัวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พบว่าบรรยากาศโดยทั่วไปยังคงไม่มีความเคลื่อนไหว ส่วนที่หน้าด่านชายแดนยังไม่มีการส่งตัวทั้งคนไทยและต่างชาติแต่อย่างใด
ขณะที่บรรดาญาติของคนไทยที่ถูกหลอกไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ทยอยเดินทางกันมาให้กำลังใจคนในครอบครัวตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา และบางรายเดินทางมาจาก จ.ปราจีนบุรี เพื่อรอรับบุตรหลานของตนเองแต่สุดท้ายต้องรอเก้อ และยังได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่าในวันพรุ่งนี้จะกลับมารอที่จุดเดิมอีกครั้ง
โดยมีรายงานล่าสุดว่า ผู้กำกับการด่าน ตม.สระแก้ว ได้เดินทางไปฝั่งกัมพูชา เพื่อประสานงานกับทหารและตำรวจฝั่งกัมพูชา เพื่อหาแนวทางในการส่งตัวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลับมาประเทศไทย พร้อมประสานให้ทางการกัมพูชาอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองลึกเข้าไปช่วยพิมพ์ลายนิ้วมือให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อความรวดเร็ว
ขณะที่ พล.ต.ต.ถาวร ดุลยวิทย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่าได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวในประเทศกัมพูชา ว่ามีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวไทยที่มีหมายจับจำนวน 5 คนที่จะต้องถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีเป็นชุดแรก
