สระแก้ว - ตำรวจสระแก้วสนธิกำลังทหาร ฝ่ายปกครอง จัดหนักผู้ประกอบการที่พักแนวชายแดนอรัญประเทศ เปิดห้องให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์นำบัญชีม้าเข้าพักคอย ล่าสุดพบรีสอร์ตชื่อดังซุก 9 อินโดฯ รอข้ามแดนไปสแกนใบหน้าที่กัมพูชา ดำเนินคดีผู้ดูแลฐานไม่มีใบอนุญาตดำเนินการ ไม่แจ้งการเข้าพักต่างด้าว ก่อนขยายผลจับเจ้าของตัวจริง
จากนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ที่สั่งการมายังตำรวจภูธรภาค 2 ให้เร่งสืบสวน และขยายผลในการป้องกันปราบปรามขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และบัญชีม้าชายแดน จ.สระแก้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ ตำรวจ สภ.คลองลึก ได้สนธิกำลังร่วมตำรวจภูธรสระแก้ว และฝ่ายปกครอง บุกจับเจ้าของโรงแรมเถื่อนชายแดนอรัญประเทศ ซึ่งให้ที่พักคอยกลุ่มบัญชีม้ารอแก๊งคอลเซ็นเตอร์พาข้ามแดนไปสแกนใบหน้าที่กัมพูชาไปแล้ว 1 ราย โดยอ้างว่าไม่มีการลงทะเบียนหรือตรวจหลักฐานผู้เข้าพักนั้น
ล่าสุด วันนี้ (23 ก.พ.) พล.ต.ต.ถาวร ดุลยวิทย์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว พร้อมด้วย พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.คลองลึก และพ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว สนธิกำลังร่วมทหารกองกำลังบูรพา และฝ่ายปกครองอำเภออรัญประเทศ บุกตรวจสอบรีสอร์ตแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ใน ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ ซึ่งมี น.ส.นัน อายุ 55 ปี แสดงตัวเป็นผู้จัดการ
และเมื่อขอดูใบอนุญาตประกอบการโรงแรมที่ได้รับจากนายทะเบียน กลับไม่สามารถนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ และเมื่อตรวจสอบทะเบียนผู้เข้าพักพบว่ามีชาวอินโดนีเซียเข้าพักจำนวน 9 ราย แต่ไม่มีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้รับทราบ
พร้อมสั่งปิดรีสอร์ตก่อนควบคุมตัว น.ส.นัน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก ดำเนินคดีฐานเปิดกิจการโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่แจ้งที่พักของชาวต่างด้าวต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเผยว่า การเข้าตรวจสอบและจับกุมรีสอร์ตแห่งนี้เป็นการขยายผลมาจากการสอบสวนช่วยเหลือเหยื่อบัญชีม้า ที่ถูกหลอกไปสแกนใบหน้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งกัมพูชา ซึ่งแก๊งดังกล่าวจะนำคนไทยเจ้าของบัญชีม้าที่ถูกชักชวนและถูกหลอกให้มาพักคอยที่รีสอร์ตแห่งนี้ ก่อนจะพาข้ามแดนไปฝั่งกัมพูชา
และหลังจากนี้จะได้สอบสวนขยายผลเพื่อจับกุมเจ้าของรีสอร์ตมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป