แม่ฮ่องสอน – เปิดอกผู้ประกอบที่พัก/รีสอร์ต-นักท่องเที่ยวหนุ่มสาวชาวอิสราเอล กลางกระแสยิวยึด-ป่วนปาย..คนป่วนแค่ส่วนน้อย ยืนยันแค่มาเที่ยวชมธรรมชาติ-วิถีท้องถิ่น ไร้เป้าดินแดนพันธสัญญา-ชาบัดเหมือนวัด/มัสยิด คนนอกเข้าดูได้ ย้ำไม่มีแย่งอาชีพ คนอิสราเอลไม่มีทางนวด-ทำอาหารเก่งกว่าคนไทย
นางอุดมลักษณ์ ชวลิต อดีตข้าราชการที่เกษียณออกมาทำกิจการที่พักใน อ.ปาย มายาวนานตั้งแต่ปี 2544 และมีนักท่องเที่ยวชาวยิวเข้าพักมาอย่างต่อเนื่อง เปิดเผยว่า ในฐานะที่เป็นคนอำเภอปายและมีกิจการที่พักที่ดำเนินการกันกับคนในครอบครัวมานาน มองว่าวิกฤตปัญหาของเมืองปายที่เกิดขึ้นในขณะนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย หากนักท่องเที่ยวยอมรับกติกาและผู้ประกอบการเองวางระเบียบในการดูแลให้ดี นอกจากนี้เจ้าหน้าที่รัฐทุกภาคส่วนก็ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเท่าเทียม
เพราะอย่างน้อยผู้ประกอบการเองก็ต้องดูแลบ้านเมืองหรือกิจการของตนเองไว้ให้กับลูกหลานต่อไปด้วย แต่หากมีการดำเนินการกระทบกับท้องถิ่นของตนเองแบบนี้ก็เท่ากับเป็นการทุบหม้อข้าวของตนเองเช่นกัน ส่วนเรื่องข่าวที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ตอนนี้ นักท่องเที่ยวหรือชาวอิสราเอลที่เข้าพักที่รีสอร์ตไม่ได้ให้ความสนใจ เพราะถือว่าทุกฝ่ายทราบดีอยู่แล้วว่ามีที่ไปที่มาอย่างไร
ปัญหาที่เกิดมากว่า 20 วัน ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจภูธรปาย ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและอีกหลายหน่วยงาน ได้ลงพื้นที่ทำการตรวจสอบและทำการจัดระเบียบ แม้กระทั่งนำสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบในพื้นที่ที่ต้องสงสัยว่าจะกระทำการที่อาจจะกระทบต่อความมั่นคงได้ อาทิ ภายในสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาของชาวยิว ที่ตั้งอยู่หลังสถานีตำรวจภูธรปาย หรือแม้กระทั่งกิจกรรมการล่องห่วงยางในแม่น้ำปาย ก็เรียกผู้ประกอบการมาทำความเข้าใจและให้ปฏิบัติตามข้อกฎหมายที่จะต้องเป็นรูปธรรม
Miss.Gabriella , Miss.Sivan , Mr.Kfir Stoig และ Mr.Lior 4 หนุ่มสาวตัวแทนนักท่องเที่ยวชาวยิว ก็ได้มาเปิดใจพูดคุยกับข่าวที่เกิดขึ้น ที่บริเวณลานชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน ต.แม่ฮี้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เย็นวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ระบุว่า ประเด็นปัญหาซาบัดหรือสถานที่ประกอบกิจทางศาสนาของชาวยิวนั้น ไม่ใช่สถานที่ปกปิด แต่เป็นสถานที่เช่นเดียวกับวัดหรือมัสยิด ทุกคนสามารถเข้าไปชมหรือดูภายในได้ ทั้งนักท่องเที่ยวหรือชาวบ้านทั่วไปก็สามารถเข้าไปได้ เพราะเป็นสถานที่ที่นัดพบปะกัน ประกอบพิธีร่วมกัน รับประทานอาหารร่วมกันนั่นเอง
ประเด็นว่ามีความพยายามจะให้ปายเป็นดินแดนพันธสัญญาของชาวอิสราเอลนั้น ไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด เพราะการเข้ามาท่องเที่ยวที่อำเภอปายนั้นก็เพื่อศึกษาหรือชมขนบธรรมเนียม วิถีชีวิต ธรรมชาติที่น่าสนใจของอำเภอปาย ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นจากคนกลุ่มเล็กนั้นทุกคนก็เสียใจ แต่ขอให้เข้าใจว่าคนอิสราเอลไม่ได้เป็นแบบนั้นทั้งหมด
สำหรับข้อข้องใจว่าชาวอิสราเอลตั้งใจจะมาตั้งถิ่นฐานหรืออพยพผู้คนมาตั้งถิ่นฐานที่ปายแล้วเข้ามาแย่งอาชีพคนไทยนั้น ทุกคนกล่าวว่า การเข้ามาท่องเที่ยวที่ปายไม่ได้หมายถึงจะเข้ามาอยู่ถาวรหรือมาประกอบอาชีพแข่งกับคนไทย เพราะอาชีพของคนไทยนั้นเหมาะกับคนไทยมากกว่า คนอิสราเอลไม่มีทางที่จะทำอาหารไทยหรือนวดแบบคนไทยได้เลย
ต่อกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นจากชาวอิสราเอลบางคนที่เข้ามาสร้างความเดือดร้อนอยากจะชี้แจงอย่างไรและอยากจะบอกนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวที่ไทยหรือที่ปายว่าอย่างไร ทั้งหมดกล่าวเป็นเสียงเดียวกัน ว่ารู้สึกเสียใจและอยากจะขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งอยากจะให้มองว่าจากทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์นั้น มีเพียงส่วนน้อยที่ทำไม่ได้ จากนี้อยากจะฝากบอกถึงชาวอิสราเอลที่จะมาเที่ยวต้องระมัดระวังมากขึ้น ไม่ก่อความเดือดร้อนกับสถานที่เข้าไปพักหรือไปเที่ยว ต้องขอบคุณชาวอำเภอปายที่ให้การต้อนรับ