ตาก – “ภูมิธรรม” ควงหลิว จงอี้ ผช.รมต.จีน-พล.อ.อ่อง ซอ ซอ รมช.มหาดไทยพม่า ติดตามการส่งกลับเหยื่อ-ผู้ต้องสงสัยร่วมขบวนการคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน ข้ามแดนจากเมียวดีขึ้นเครื่องแม่สอดบินตรงกลับ สป.จีน ยืนยัน 3 ฝ่ายทำงานร่วมกันภายใต้อธิปไตย-กฎหมายท้องถิ่นแต่ละประเทศ พร้อมจับมือเดินหน้าปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์
วันนี้(20 ก.พ.)ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีทางการจีน ได้จัดเที่ยวบิน China Southern Airlines รับตัวชาวจีนทั้งที่เป็นเหยื่อ-ผู้ร่วมขบวนการ หรือเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ แก๊งอาชญากรรมออนไลน์ ที่ถูกกองกำลังพิทักษ์ชายแดนเมียวดี (BGF)-ทางการเมียนมา จับกุม/ช่วยเหลือออกมาได้ และจะส่งตัวข้ามแดนจากเมียวดีเข้าแม่สอด เพื่อส่งตัวกลับ สป.จีน
ซึ่ง สป.จีน ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบข้อมูล และขนย้ายจากเมียนมา ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2 ตรงเข้าท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด วันนี้(20 ก.พ.) จำนวน 4 เที่ยวบิน , 21 และ 22 ก.พ. วันละ 6 เที่ยวบิน รวม 3 วัน 16 เที่ยวบิน
โดยในช่วงก่อนเที่ยงวันนี้(20 ก.พ.) ได้มีการนำชาวจีนกลุ่มแรก นั่งรถทัวร์คันละ 25 คน ข้ามแดนจากเมียวดี ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ตรงเข้าท่าอากาศยานฯแม่สอด ขึ้นเครื่องที่มารอรับทั้งช่วงเช้า และช่วงบ่ายก็ รวม 4 เที่ยวบิน
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีความมั่นคงและสาธารณะ สป.จีน, พลเอกอ่อง ซอ ซอ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยของเมียนมา ได้ลงพื้นที่ติดตามการส่งตัวชาวจีนจากเมียนมาหลังมาตราการปราบแก็งคอลเซ็นเตอร์ ผ่านท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด และแถลงข่าวกับสื่อมวลชน
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราทำงานล่วงหน้ากันมา 1 - 2 เดือน แต่ไม่ได้มีการปรากฏตัวให้เห็นด้วย จึงเป็นกระแสว่าทำไมจีนมีอำนาจสั่งการอะไรนักหนา ซึ่งเขายืนยันว่า เขาแจ้งอยากให้เราทราบว่า ความหวังดีที่เขาอยากจะแก้ปัญหาให้เร็ว ทำให้เข้าใจผิด และทั้ง 3 ส่วน ไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ
ชายแดนเกี่ยวข้องหลายกระบวนการ ถ้าไม่จับมือร่วมกัน หรือให้ใครคนใดคนหนึ่งทำ เป็นไปไม่ได้ แต่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะเคารพอธิปไตยของแต่ละฝ่าย และจะปฏิบัติกฎหมายท้องถิ่นแต่ละประเทศ หลังจากนี้ประมาณ 1 สัปดาห์ จะคุยภาคีระดับรัฐมนตรีทั้ง 3 ฝ่าย และกระทรวงการต่างประเทศรับรู้เรื่องนี้แล้ว เพราะฉะนั้น เรื่องนี้จะเกิดขึ้นทันทีเมื่อพร้อม เพราะทุกฝ่ายคุยกันหมดแล้ว
นายภูมิธรรม ย้ำว่า ชุดนี้จะเป็นชุดสุดท้าย แต่หลังจากนี้ ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันในบางส่วน จึงจำเป็นต้องพูดคุยกันในไตรภาคี แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีความขัดแย้งกัน สำหรับกระบวนการส่งตั้งแต่ออกเดินทางจากเมียนมา มีระบบการคัดกรอง และเรื่องไบโอเมตทริกซ์ มีการทำแล้ว อย่าให้ใครเที่ยวพูดว่าเราไม่ทำงาน เรื่องนี้มีโทษสูงหลายเรื่อง อย่าคิดว่าพวกเราจะเอาชีวิตเราไปเสี่ยง ยืนยันว่า ทุกอย่างทำตามกระบวนการ
“ตนเองไม่สบายใจที่จะมีการนำชาวอุยกูร์กลับไปพร้อมกับชาวจีนด้วย ซึ่งเรื่องนี้สามารถติดตามและตรวจสอบได้ ท่านก็สามารถตรวจสอบได้ โดยชุดนี้มีการส่งกลับ 600 คน มีกระบวนการตรวจสอบ ซึ่งให้เจ้าหน้าที่ทางไทยเข้าไปตรวจสอบด้วย ทุกอย่างต้องยึดหลักสิทธิมนุษยชน จึงบอกว่าอย่าไปถ่ายหน้าเขา ต้องเห็นแก่เหยื่อที่ประสบภัยนี้ด้วย ซึ่งได้มีการตรวจสอบตามกระบวนการแล้วในขั้นต้น แต่การทำงานไม่ได้หยุด จะมีการตรวจสอบต่อไป”
อย่างไรก็ตาม ยังไม่อนุญาตให้มีการตั้งสำนักงานที่นี่ แต่จะมีการคุยกันทั้ง 3 ฝ่าย และกำลังหยิบเอากฎหมาย ปี 48 ตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการร่วมที่จะมีทั้งทหาร และฝ่ายปกครอง โดยให้แม่ทัพภาค 3 เป็นซิงเกิ้ลคอมมานด์ในการสั่งการ และมีกระทรวงการต่างประเทศด้วย รวมทั้งจะมีโฆษกคอยชี้แจงเรื่อย ๆ จะได้ความชัดเจน ให้มีส่วนที่รับผิดชอบ ไม่ต้องไปถามหาความรับผิดชอบจากใคร เพราะมีกฎหมายรองรับ
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า หลัก ๆ เราไม่ให้มาตั้งค่าย เพราะเราไม่มีศักยภาพพอที่จะรองรับผู้อพยพ เพราะที่มีอยู่เวลานี้ก็มีปัญหา ถ้าจะส่งมาให้เรา ก็ต้องมีกระบวนการที่พร้อมรับไปเช่นการติดต่อผ่านสถานทูตเพื่อมารอรับ กรณีทางการจีน เขาพร้อมมารับ และเห็นว่าการเดินทางผ่านไปยังย่างกุ้งนั้นอันตราย และระยะทางไกล ซึ่งเราก็พร้อมจะช่วยเหลือ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่กระทบต่อประชาคมโลก
ทั้งนี้ มาตรการอื่น ๆ ยังคงมีการทำอย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้น ฝ่ายค้านที่พูดเรื่องนี้ก็อยากให้แนะนำมายังรัฐบาล ไม่อยากให้เอาเรื่องนี้ไปเป็นประเด็นการเมือง เพื่อดิสเครดิตรัฐบาล เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างประเทศ และเป็นความร่วมมือกันระหว่างประเทศ เถ้าเกิดเป็นผลกระทบ จะจัดการไม่ได้
“กระบวนการต่าง ๆ เราทำอย่างเปิดเผย แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมโลก จึงทำให้บางเรื่อง จำเป็นต้องมีกระบวนการในการจัดการ มิฉะนั้น ถ้ามาพูดผ่านสื่อหมด จะจับคนร้ายไม่ได้”
นายภูมิธรรม ย้ำว่า กระแสข่าวที่ว่าชาวจีนไม่ผ่านกระบวนการ NRM นั้น ไม่จริง ทำตลอด ได้มีการนำเครื่องมือจากส่วนกลางมาเพิ่ม ทำให้การจัดการในวันนี้รวดเร็ว และเสร็จก่อนเวลา อย่างไรก็ตาม เราต้องทำ ถ้าไม่ทำจะมีมีโทษตามมาตรา 119
เมื่อถามว่า ผ่านมา 15 วันกับมาตรการตัดน้ำมัน ตัดไฟ ตัดเน็ต เป็นอย่างไรบ้าง นายภูมิธรรม ระบุว่า ก็เกิดการตื่นตัว เนื่องจากคนทางฝั่งเมียนมา เริ่มออกมาแสดงความคิดเห็นว่าไม่เห็นด้วยกับการมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และก็ยังเกิดภาพการส่งตัวชาวจีนในวันนี้ ดังนั้น ถ้าไม่มีกระบวนการ 3 ตัดของเรา สิ่งเหล่านี้ก็จะไม่เกิด
ส่วนที่มีการรวมกลุ่มได้ 2,000 - 3,000 คน จะทำให้กระบวนการล่าช้าหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ถ้ามีความพร้อมก็สามารถทำได้เลย