พระนครศรีอยุธยา - เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา ไล่ล่าพม่าตีนผีเหยียบปาเจโร่หนีการตรวจ สุดท้ายจนมุม พบอัดแรงงานต่างด้าวเพื่อนร่วมชาติหลบหนีเข้าเมืองมาเต็มคันรถ ที่ กม.51-52 ถนนพหลโยธิน ทางหลวงหมายเลข 1 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ชั้นในอยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล. จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ
ล่าสุด วันนี้ (20 ก.พ.) ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา ชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง โดยพบรถยนต์อเนกประสงค์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 6 ขฆ 3313 กรุงเทพมหานคร ขับผ่านมาลักษณะฟิล์มมืดทึบและมีน้ำหนักที่รถยนต์มากกว่ารถยนต์ปกติ ขับมาด้วยความเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ส่งสัญญาณไฟกะพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียง รวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด แต่ไม่ยอมหยุดใช้ความเร็วพยายามขับหลบหนีประมาณ 3 กิโลเมตร
จนมาเจอการจราจรรถหนาแน่น ที่ กม.51-52 ถนนพหลโยธิน ทางหลวงหมายเลข 1 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบ พบมี นายมิน ตู MIN THU อายุ 31 ปี สัญชาติพม่า เป็นคนขับ ตรวจสอบมีหนังสือเดินทางถูกต้อง แต่พอตรวจสอบภายในรถมีกลุ่มบุคคลชายและหญิง ชาวพม่า เป็นชาย 6 คน หญิง 7 คน นั่งโดยสารอัดแน่นมาภายในรถ ตรวจสอบเบื้องต้นทั้งหมดไม่มีหนังสือเดินทาง
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา จึงเชิญคนขับรถยนต์คันดังกล่าวมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง พบว่า แรงงานที่อัดแน่นมาภายในรถเป็นคนต่างด้าวสัญชาติพม่า ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง
จากการสอบถาม นายมิน ตู MIN THU อายุ 31 ปี สัญชาติพม่า คนขับ ให้การผ่านล่ามแปลภาษาพม่า ยอมรับว่า เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 02.00 น.ได้รับการประสานจากชายชาวพม่า (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ให้ไปรับแรงงานต่างด้าวจำนวน 13 คน ที่ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อไปส่งปลายทางพื้นที่กรุงเทพหมานคร โดยได้ค่าจ้าง 1,000 บาท/ครั้ง และรับว่าได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวทั้ง 13 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆ และยินยอมที่จะนำมาส่งที่ปลายทางในพื้นที่ชั้นในของ กรุงเทพมหานคร จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงอยุธยาเรียกตรวจสอบและจับกุมไว้ได้เสียก่อน
ด้าน นายยา เน ซู อายุ 46 ปี สัญชาติพม่า แรงงานที่ถูกจับพอพูดไทยได้ กล่าวว่าตนเคยทำงานก่อสร้างที่ประเทศไทยเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และกลับบ้านไปดูแม่ พอจะกลับมาพาสปอร์ต หรือหนังสือเดินทางขาดไม่สามารถต่อได้แล้วจึงประสานภรรยาที่อยู่ในไทย เพื่อจะกลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง โดยลักลอบเข้ามาพร้อมแรงงานต่างด้าวทั้งหมด โดยเดินทางมาจากหลายที่ ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมาในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 10,000-15,000 บาท
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้สอบถามพบว่าไม่ได้กินข้าวมา 2 วันแล้ว จึงสั่งข้าวกล่อง น้ำดื่ม มาเลี้ยงแรงงานต่างด้าวทั้งหมด
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา จึงแจ้งข้อกล่าวหา นายมิน ตู MIN THU อายุ 31 ปี สัญชาติพม่า คนขับ ข้อหา “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” ส่วนแรงงานต่างด้าวชายหญิง 13 คน ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมคุมตัว พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพระอินทร์ราชา อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป