สลด! พ่อค้าหมูปิ้งลั่นไกยิง ผอ.รร.เมียรัก โคม่า ก่อนปิดชีพตัวเองดับคารถ คาดหึงหวงเครียดป่วยมะเร็ง

บุรีรัมย์- พ่อค้าหมูปิ้งวัย 46 ยิง ผอ.โรงเรียนเมียรักขณะกลับจากส่งหลานไป รร. กระสุนเจาะท้ายทอยทะลุจมูก อาการโคม่าคิดว่าเมียตายจึงจ่อขมับปิดชีพตัวเองดับคารถก่อนถึงบ้านแค่ 500 เมตร คาดทะเลาะกันรุนแรง ชาวบ้านได้ยินเสียงบีบแตรยาวคาดภรรยาพยายามขอความช่วยเหลือ สอดคล้องภาพวงจรปิดได้ยินเสียงแตรก่อนมีเสียงปืนดัง 3 นัด คาดปมหึงหวงและเครียดป่วยมะเร็ง

วันนี้ ( 19 ก.พ.68) เมื่อเวลา 10.27 น. ร.ต.อ. อำนวย หนองหาญ ร้อยเวร (สอบสวน) สภ.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเหตุสามีภรรยายิงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต ภายในรถยนต์ บนถนนภายในซอยหลังตลาดคูเมืองมาร์เก็ต หมู่บ้านคูขาด หมู่ที่ 10 ต.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมชัย โสภณปัญญาภรณ์ ผกก.สภ.คูเมือง นายอำเภอคูเมือง ชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลคูเมือง ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดบุรีรัมย์ และหน่วยกู้ภัยฯ รีบเดินางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง


เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์ยี่ห้อ อีซูซุ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กง 250 ระนอง จอดอยู่กลางถนน โดยที่กระจกรถทั้งสองข้างพบร่องรอยกระสุน เมื่อเปิดประตูรถฝั่งคนขับ พบนางณหทัย ขุนแผ้ว อายุ 51 ปี ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขต อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา หายใจรวยรินอยู่บนเบาะรถ หน่วยแพทย์ฉุกเฉินจึงได้รีบนำส่ง รพ.คูเมือง แต่อาการสาหัสเพราะมีแผลถูกยิงที่ท้ายทอยทะลุบริเวณจมูก จึงได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.บุรีรัมย์


ส่วนเบาะข้างคนขับพบร่าง นายสมศักดิ์ ขุนแผ้ว อายุ 46 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช มีอาชีพขายหมูปิ้งอยู่หน้าโรงพยาบาลคูเมือง อยู่ในสภาพสวมเสื้อลายสก็อตสีแดงแขนสั้น และกางเกงยีนส์ขาสั้น เลือดไหลเต็มตัวจนเสื้อเปียกชุ่มไปด้วยเลือก ตรวจสอบเบื้องต้นมีแผลถูกยิงบริเวณศีรษะ ใกล้กันยังพบอาวุธปืนยี่ห้อบาเร็ตต้า ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก ตกอยู่ภายในตัวรถ และยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 2 ปลอก ที่ถูกยิงแล้วตกอยู่บริเวณพื้นที่พักเท้า รวมถึงยังมีกระสุนปืนขนาด 9 มม. ที่ยังไม่ได้ยิงอีก 1 นัดตกอยู่ด้วย คาดว่าน่าจะอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน


จากการสอบถาม ร.ต.ต.สมโภชน์ เรือนใหม่ อายุ 71 ปี ข้าราชการเกษียณ ซึ่งเป็นคนเห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุ นางณหทัย กับนายสมศักดิ์ สองสามีภรรยา ได้ขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุเข้ามาในซอย โดยนางณหทัย เป็นคนขับ ส่วนนายสมศักดิ์ สามีนั่งข้าง โดยก่อนจะมาถึงจุดเกิดเหตุได้ยินเสียงบีบแตรดังค้างยาว คาดว่าฝ่ายหญิงน่าจะบีบเพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะช่วงที่ทั้งคู่ขับรถมาอาจจะมีปากเสียงทะเลาะกัน และฝ่ายชายอาจจะชักปืนขึ้นมาขู่หรือไม่


จากนั้นรถคันดังกล่าวก็จอดที่หน้าบ้านของตนเอง ซึ่งตอนนั้นตนก็เดินออกมาดูโดยมีหลานตามออกมาด้วย จังหวะที่ตนออกมา นายสมศักดิ์ ผู้เป็นสามี ลดกระจกลงมาแล้วพูดกับตนว่า “มันอยากตาย” แล้วเขาก็ปิดกระจกขึ้นจากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 2 – 3 นัด จนกระสุนพุ่งทะลุกระจกทั้งสองฝั่ง คิดว่าน่าจะก่อเหตุยิงกันในรถ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ พบว่านางณหทัย หรือ ผอ.น้อย ถูกยิงที่ท้ายทอย อาการสาหัส ส่วนนายสมศักดิ์ ผู้เป็นสามี มีแผลถูกยิงที่ศีรษะ คาดว่าน่าจะยิงภรรยา ก่อนแล้วคิดว่าภรรยาเสียชีวิต จึงยิงตัวเองตายตาม ส่วนมูลเหตุจูงใจตนก็ไม่ทราบว่าเพราะอะไร อาจจะเป็นเรื่องภายในครอบครัว หรือปัญหาสุขภาพ


ด้าน นายสมภาร เดิมทำรัมย์ พี่ชาย ผอ.น้อย เล่าว่า วันนี้น้องสาวกับสามีขับรถยนต์ไปส่งหลานไปโรงเรียน แล้วก็จะกลับมาส่งสามีเข้าบ้าน ก่อนที่น้องสาวจะออกไปทำงานซึ่งน้องเป็น ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งที่ จ.นครราชสีมา แต่ระหว่างทางที่จะกลับมาส่งสามีเข้าบ้านก็ไม่รู้ว่าทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะเรื่องอะไรกัน ถึงได้ก่อเหตุรุนแรงแบบนี้ ทั้งที่อีกแค่ประมาณ 500 เมตรก็จะถึงบ้านแล้ว

ส่วนตัวคาดว่าเหตุจูงใจสามีอาจจะเครียดเรื่องปัญหาสุขภาพที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งมาหลายปีแล้ว หรืออาจจะระแวงหึงหวงภรรยาที่เป็น ผอ.หรือไม่ เพราะเวลาที่คนที่ทำงานด้วยกันเขาอาจจะส่งข้อความมาพูดคุยหรือสอบถามอะไร อาจจะทำให้สามีคิดไปเองหรือระแวงก็มีส่วนเป็นไปได้ แต่ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นน้องสาวและน้องเขย ทะเลาะกันรุนแรงให้เห็นเลย ก็มีปากเสียงเล็กๆ น้อยๆ ตามประสาผัวเมีย แต่ไม่คิดว่าน้องเขยจะตัดสินใจหาทางออกแบบนี้ ซึ่งตอนนี้น้องสาวก็อาการโคม่า ถูกส่งไปรักษาที่ รพ.บุรีรัมย์ ส่วนน้องเขยที่ยิงตัวเองเสียชีวิต คงจะส่งศพกลับไปให้ญาติที่ จ.นครศรีธรรมราช ประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป


ขณะที่กล้องวงจรปิดของร้านค้าใกล้จุดเกิดเหตุ สามารถบันทึกภาพขณะรถของ ผอ.น้อย วิ่งผ่าน โดยมีเสียงบีบแตรยาวตลอดจนถึงจุดเกิดเหตุ จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดัง 3 นัด คาดว่าเสียงแตรฝ่ายหญิงน่าจะบีบเพื่อขอความช่วยเหลือ

อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนในเบื้องต้น คาดว่านายสมศักดิ์ น่าจะเกิดอาการเครียด ที่ตนเองป่วยเป็นโรคมะเร็ง หรือเกิดความหึงหวง เนื่องจากนายสมศักดิ์ สามีที่ยิงตัวเองเสียชีวิต เป็นสามีใหม่ ของนางณหทัย ภรรยาที่ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส แต่ยังไม่มีบุตรด้วยกัน แต่ก่อนหน้านี้นางณหทัย ได้หย่าร้างกับสามีเก่าที่มีอาชีพเป็นครูด้วยกัน และมีบุตรร่วมกัน 1 คน ก่อนจะมาพบรักใหม่กับนายสมศักดิ์ และเกิดเหตุการณ์สลดดังกล่าวขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการเก็บหลักฐานวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ และสอบปากคำชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ และจะได้ทำการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุของการก่อเหตุที่แท้จริงต่อไป