เชียงใหม่ - ตำรวจไซเบอร์ภาค 5 แกะรอยตามรวบ “เครือข่ายกลุ่มกดเงิน” ยกแก๊ง..พบมีทั้งเมียนมา-ไทย อยู่สันทราย เชียงใหม่/ป่าแดด เชียงราย รับงานก๊วนหลอกขายออนไลน์ ถอนเงินบัญชีม้าจากตู้ ATM ฝากต่อเข้าบัญชีอื่น แลกค่าคอมม์ 1% พบบอสใหญ่อยู่ท่าขี้เหล็ก
วันนี้ (19 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (PCT) ภ.5 และ กก.วิเคราะห์ข่าว บก.สส.ภ.5 ได้ติดตามจับกุมเครือข่ายอาชญากรรมทางเทคโนโลยี "เครือข่ายกลุ่มกดเงิน" ในพื้นที่ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่
หลังจากได้รับแจ้งจากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งว่ามีบัญชีธนาคารถูกนำไปใช้ในการหลอกลวงออนไลน์ทั่วประเทศจำนวน 93 คดี และบางส่วนได้ถอนเงินผ่านตู้กดเงินสดหรือ ATM เป็นจำนวนมากในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ มีเงินหมุนเวียนกว่า 24 ล้านบาท
เมื่อเจ้าหน้าที่สืบสวนจึงทราบว่ากลุ่มบัญชีดังกล่าวถูกนำไปใช้หลอกลวงผู้เสียหายที่ อ.เมืองลำพูน โดยคนร้ายได้หลอกลวงขายสินค้าและบริการแต่ไม่มีสินค้าให้จริง ส่วนเงินสดที่ได้นำเข้าบัญชีม้าและมีกลุ่มคนที่ไปกดเงินออกมาทางตู้ ATM และนำไปฝากอีกบัญชีหนึ่งจำนวน 6 ราย เรียกว่า "เครือข่ายกลุ่มกดเงิน"
เจ้าหน้าที่จึงได้ขออนุมัติหมายจับจากศาล จ.ลำพูน และศาล จ.เชียงใหม่ ในฐานความผิด "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน"
จากนั้นนำกำลังตามไปจับกุมได้ตามสถานที่ต่างๆ คือ น.ส.ดวงกมล อายุ 18 ปี และ น.ส.จอ อายุ 31 ปี ทั้งคู่เป็นชาวเมียนมา อาศัยอยู่ ต.สันป่าเป้า อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง รถยนต์เก๋ง 1 คัน, เสื้อผ้าที่สวมไปกดถอนเงิน 2 ชุด, สมุดบัญชีธนาคาร 9 เล่ม, บัตร ATM 8 ใบ, รถจักรยานยนต์ 1 คัน, เงินสดประมาณ 1,600,000 บาท
นอกจากนี้ยังจับกุมนายอดิศร อายุ 29 ปี ชาว ต.สันนาเม็ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคาร 26 เล่ม, บัตร ATM 1 ใบ, เอกสารสลิบฝากเงิน 5 ฉบับ, ซิมการ์ด 2 อัน, กระเป๋าใส่เงิน 1 ใบ น.ส.ณัฐณิชา อายุ 22 ปี ชาว ต.โรงช้าง อ.ป่าแดด จ.เชียงราย พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
นายเสาร์คำ อายุ 33 ปี ชาว ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง, ชุดใส่กดเงิน 1 ชุด และ น.ส.วิไลพร อายุ 29 ปี ชาว ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
สอบสวนเบื้องต้นทั้งหมดให้การสอดคล้องกันว่าพบการโฆษณาหารายได้ทางออนไลน์ และมีการให้ใช้แอปพลิเคชันเทเลแกรมพูดคุยกับชื่อ “นักทำลายใต้หว่างขา” ซึ่งชวนให้ทำงานคอยกดเงินสดออกจากบัตร ATM เพื่อแลกกับค่าตอบแทนต่อจำนวนเงินที่กดออกมา 1% โดยให้กดเงินออกมาเฉลี่ยครั้งละ 500,000-600,000 บาท ทำให้แต่ละคนมีรายได้ครั้งละ 5,000-6,000 บาท เริ่มทำงานมาตั้งแต่เดือน พ.ย.-ธ.ค. 2567 เมื่อกดเงินสดออกมาแล้วก็ให้นำไปฝากต่อตามบัญชีที่ "นักทำลายใต้หว่างขา" แจ้งให้ทราบ
เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนต่อจนพบว่าจุดสุดท้ายที่มีการถอนเงินจากตู้ ATM คือที่ชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีนายเสาร์คำกดเงินสดออกมา ซึ่งนายเสาร์คำให้การว่ามีนายจ้างเป็นชาวเมียนมาข้ามมารับเงินสดแล้วนำกลับไป จ.ท่าขี้เหล็ก เพื่อนำไปให้บอสใหญ่อีกต่อหนึ่ง
