กาญจนบุรี - ซุกแรงงานพม่า 116 ราย เกาะกลางน้ำ ผกก.สภ.สังขละบุรี-ตชด.134 ตามรวบยกชุด พบส่วนใหญ่เป็นชายหญิงวัยรุ่น หนีมาตรการเกณฑ์ทหารของรัฐบาลพม่า สารภาพจ่ายค่าหัวให้นายหน้า 18,000-20,000 บาท หวังไปทำงานจังหวัดชั้นในและมาเลเซีย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่ำวานนี้ (18 ก.พ.) พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี ได้รับแจ้งจากสายข่าว พบบุคคลต่างด้าวจำนวนมากหลบซ่อนตัวอยู่บนเกาะกลางน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ห่างจากฝั่งประมาณ 300 เมตร ในพื้นที่หมู่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี หลังรับแจ้งจึงร่วมกับ พ.ต.ท.กิตติณัติ์ ปรีชาวุฒิวงศ์ รอง ผกก.ป.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ต.ประดิษฐ์ แร่เพชร สว.ธร.สภ.สังขละบุรี รรท.สวป.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ท.อรรถพล แพสอาด ผบ.ร้อย ตชด.134 เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์ พร้อมชุดเฉพาะกิจ (ปะ ฉะ ดะ) รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.สังขละบุรี นำกำลังเดินทางไปตรวจสอบ
ไปถึงพบกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวพม่านับร้อยคนนั่งพักคอยอยู่บนเกาะจริง แต่เนื่องจากจุดดังกล่าวเป็นเกาะกลางน้ำห่างจากฝั่งไกลประมาณ 300 เมตร พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี จึงประสานไปยังผู้ประกอบการชาวเรือชาวแพสนับสนุนเรือที่ใช้บริการนักท่องเที่ยวให้มารับแรงงานทั้งหมดไปขึ้นฝั่ง ซึ่งต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะนำแรงงานทั้งหมดกลับขึ้นฝั่งได้ จากการตรวจสอบพบมีแรงงานทั้งหมด จำนวน 116 คน เป็นชาย 72 คน หญิง 44 คน และยังมีลูกของแรงงานอีก 2 คน
1 ในแรงงานชาวพม่าที่ถูกจับกุมและสามารถพูดและเข้าใจภาษาไทย ให้การว่า พวกตนทั้งหมดเดินทางมาจากเมืองพญาตองซู ประเทศพม่า ก่อนจะลักลอบเข้ามาในประเทศไทย ด้วยการเดินผ่านช่องทางธรรมชาติ แล้วมารอรถที่ป่าข้างทาง ไม่นานนักมีคนนำรถยนต์มารับแล้วมาลงเรือที่ท่าน้ำหลังวัดแห่งหนึ่ง โดยใช้เวลานั่งเรือมาหลบซ่อนตัวที่เกาะกลางน้ำ ประมาณ 20 นาที ซึ่งเพื่อนแรงงานบางคนอยู่ที่เกาะกลางน้ำแห่งนี้มาแล้ว 2-3 วัน ในแต่ละวันจะมีคนนำข้าวกล่องและน้ำดื่มมาให้กินวันละ 1 มื้อเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสังเกตพบว่ากลุ่มแรงงานจะมีเชือกฟางผูกเอาไว้ที่ข้อมือ แต่คนละสีกัน จากการสอบถามแรงงานทราบว่า นายหน้าที่เป็นผู้นำพานำเชือกฟางมาผูกที่แขนเพื่อแสดงสัญลักษณ์ให้ทุกคนรู้ว่า จะต้องเดินทางไปทำงานในพื้นที่จังหวัดอะไร เช่น สีแดง ไปทำงานที่ จ.สมุทรสาคร สีเขียว ไปทำงานที่ จ.สมุทรปราการ เป็นต้น โดยในครั้งนี้กลุ่มแรงงานทั้งหมดมีจุดมุ่งหมายไปทำงานในพื้นที่ จ.นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปทุมธานี รวมถึงกรุงเทพฯ และข้ามไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งทุกคนจะต้องจ่ายค่าหัวให้นายหน้าที่เป็นชาวพม่าด้วยกัน คนละ18,000-20,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางการเดินทางของแต่ละคน
เหตุผลที่หลบหนีเข้ามาหางานทำในประเทศไทยและมาเลเซีย เป็นเพราะถูกบังคับให้ไปเป็นทหารโดยไม่มียกเว้นทั้งชายและหญิง ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลทหารพม่า ที่กำหนดให้ชายที่มีอายุ 18-35 ปี และหญิงที่มีอายุ 18-27 ปี ต้องรับใช้ชาติด้วยการเป็นทหารเป็นเวลา 2 ปี
หลังจากกลุ่มแรงงานให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำรถบรรทุกและรถยนต์กระบะมาลำเลียงแรงงานส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ดำเนินการผลักดันกลับสู่ประเทศต้นทางต่อไป แต่กว่าจะลำเลียงครบทุกคนต้องใช้เวลานานจนถึงมืดค่ำกันเลยทีเดียว