แม่ฮ่องสอน - แกะปมร้อน ยิวครองเมือง ผวาผุด “ปายเลสไตน์ แม่ฮ่องสอน” พบกิน-อยู่-เที่ยวเองหมด แบบเบ็ดเสร็จ เงินเชคเกลแทบไม่กระเด็น แถมล่าสุดข่าวสะพัดใช้นอมินีจ่อซื้อที่-รีสอร์ตที่ประกาศขาย ก่อนหาทำตลาดเองซ้ำ
แม้กระแส “ดินแดนพันธสัญญา - ปายเลสไตน์ แม่ฮ่องสอน” อาจจะดูเกินจริง ซึ่งทั้งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะออกมายืนยันว่า ไม่เป็นความจริง-เป็นไปไม่ได้ และ ผบ.ตร.สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดจัดการปัญหาพฤติกรรมนักท่องเที่ยวต่างชาติภายใน 7 วัน
ขณะที่ข้อมูลคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยที่ต้องแจ้ง ตม.จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาม ตม.30 พบว่า ตั้งแต่ 1 ม.ค.-13 ก.ย. 67 นักท่องเที่ยวอิสราเอลแจ้งเข้าพักในพื้นที่ อ.ปาย รวม 15,108 คน เฉพาะเดือน ส.ค. 67 มีชาวอิสราเอลเข้าพักในพื้นที่อำเภอปาย 3,474 คน, เดือน ก.ค. 67 จำนวน 2,952 คน ห้วงเดือน มิ.ย. 67 จำนวน 2,222 คน ห้วงเดือน พ.ค. 67 จำนวน 1,977 คน ห้วงเดือน เม.ย. 67 จำนวน 1,150 คน ห้วงเดือน มี.ค. 67 จำนวน 1,001 คน ห้วงเดือน ก.พ. 67 จำนวน 1,214 คน และห้วงเดือน ม.ค. 67 1,118 คน
อย่างไรก็ดี มีการตั้ง ชาบัด เฮาส์ (Chabad House) บนเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ บริเวณ ถ.รังสิยานนท์ ซอย 2 หมู่ 4 ต.เวียงใต้ อ.ปาย ด้านหลัง สภ.ปาย รั้วสูง 3 เมตร ภายในมีอาคารสิ่งก่อสร้าง 2 หลัง ประกอบไปด้วยบ้านสองชั้นแบบครึ่งปูนครึ่งไม้ ดัดแปลงและต่อเติมเป็นพื้นที่ สำหรับทำกิจกรรมและประกอบพิธีกรรม และบ้านปูนชั้นเดียวสำหรับทำกิจกรรม นอกจากนี้ บริเวณลานตรงกลางยังมีเต็นท์ผ้าใบสีขาวแบบปิดทึบขนาดใหญ่สำหรับจัดเลี้ยงรับประทานอาหาร
เดิมมีการใช้ Chabad House เป็นสถานที่พบปะทำกิจกรรมทางศาสนาของชาวอิสราเอลในพื้นที่ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลาประมาณ 19.00-22.00 น. ซึ่งปกติจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 80-150 คน แต่ถ้ามีเทศกาลหรือห้วงที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากอาจมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมมากถึง 400-700 คน
แต่ห้วงที่เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งอิสราเอล-ฮามาส ได้หยุดการจัดกิจกรรมไป กระทั่งสถานการณ์คลี่คลายลงจึงกลับมาจัดอีกครั้ง โดยมีการจ้าง รปภ.-ขอกำลังตำรวจดูแล รวมทั้งติดตั้งกล้องวงจรปิดโดยรอบด้วย
ขณะที่ชาวอิสราเอลที่อาศัยอยู่ประจำมีอยู่ประมาณ 10 ครอบครัว รวมราว 50 คน ส่วนใหญ่อยู่อาศัยกระจายตัวไม่ห่างจากชาบัดเฮาส์อำเภอปาย โดยมีครอบครัว “ราไบ” (ผู้ดำเนินพิธีกรรมทางศาสนายิว) เป็นผู้นำชุมชน
สำหรับประเด็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้น น่าจะมาจากพฤติกรรมหลายอย่างของชาวยิว แตกต่างจากนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มอื่นอย่างชัดเจน เพราะแม้แต่การประกอบอาหารจัดเลี้ยงในสถานที่ประกอบพิธี ก็จะสั่งซื้อเข้ามาดำเนินการเองทุกขั้นตอน เลยเป็นเหตุให้ชาวบ้านไม่พอใจ เพราะไม่มีรายได้ให้กับคนในพื้นที่ แต่ทางกลับกันก็ยังมาก่อปัญหาสารพัดจนถึงวันนี้
ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเก่าแก่ของอำเภอปาย ต่างก็ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ว่าตั้งแต่นักท่องเที่ยวอิสราเอลเข้ามาในพื้นที่ นับวันยิ่งก่อปัญหาให้กับคนในพื้นที่หรือผู้ประกอบการเดิมๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการกิน อยู่ ท่องเที่ยว ชาวยิวจะไปไหนมาไหนแบบไม่สนใจใคร แค่เช่าจักรยานยนต์คันเดียวก็ไปได้ทั่วแบบไม่ต้องมีไกด์นำเที่ยว กลายเป็นกลุ่มที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้กับผู้ประกอบการและผู้คนในพื้นที่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะหลังเริ่มเข้ามาแย่งงานคนในท้องถิ่น ทั้งจับกลุ่มนำเที่ยวเอง ลักลอบทำงานในสถานบันเทิง เล่นดนตรี และให้คนไทยเป็นนอมินีเข้ากว้านซื้อรีสอร์ตหรือที่ดินที่มีคนประกาศขาย แล้วหาทางทำการตลาดเองทั้งหมด แต่ที่เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบแล้วไม่พบนั้น เพราะทุกอย่างมีการวางแผนไว้แล้วล่วงหน้า ให้คนไทยออกหน้าแทน โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะดำเนินการทั้งหมดอยู่เบื้องหลัง
ซึ่งคนในพื้นที่ก็ทราบกันดี แต่ไม่รู้ว่าจะดำเนินการอย่างไร จนกระทั่งเกิดกระแสความไม่พอใจกับนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลกระฉ่อนขึ้นมาในช่วงนี้ ก็จะมีหลายคนที่กล้าออกมาพูดได้มากขึ้น ยิ่งมีกระแสยิวครองเมืองปาย ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับผู้คนในพื้นที่มากขึ้นไปอีก บางคนถึงขั้นพูดว่าเมืองปายไม่มียิวจะน่าอยู่และเรียบร้อยกว่านี้อีกเยอะ
