ระยอง - ผอ.โรงพยาบาลระยอง ยันดำเนินคดีมือตบพยาบาลถึงที่สุด ยันไม่สนับสนุนความรุนแรงในสถานพยาบาล แม้หลังก่อเหตุจะเข้าพบตำรวจอ้างเครียด ไม่พอใจคำพูดพยาบาลที่ทำให้เมียคิดว่าแม่ยายจะไม่รอดจึงบันดาลโทสะ ด้านเมียโพสต์เฟซบุ๊กขอชาวเน็ตฟังอีกมุม ส่วนชมรมพนักงานกระทรวงสาธารณสุขร้องหน่วยงานเกี่ยวข้องกำหนดมาตรการป้องกันเหตุซ้ำ
จากเหตุการณ์พยาบาลสาว โรงพยาบาลระยอง ถูกชายซึ่งเป็นญาติผู้ป่วยทำร้ายร่างกายด้วยการตบหน้าอย่างแรง เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกเตือนเรื่องการนำเด็กเข้าเยี่ยมผู้เป็นยาย ในห้องคนไข้วิกฤต หรือห้องไอซียู ตึกอายุรกรรมหญิง เนื่องจากหวั่นว่าอาจเกิดการติดเชื้อทั้งกับคนไข้และเด็กเล็ก และเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวลงในโลกออนไลน์ ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมของญาติคนไข้รายนี้อย่างรุนแรงนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (18 ก.พ.) นายแพทย์ภูษิต ทรัพย์สมพล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลระยอง ได้เปิดแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ทางโรงพยาบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงในสถานพยาบาล โดยยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด รวมทั้งยังให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.เสฏฐวุฒิ สุทธิวัฒนมงคล รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองระยอง แล้ว
และทางโรงพยาบาลได้มอบหมายให้ฝ่ายนิติกรดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งให้ดูแลสภาพร่างกายและจิตใจของผู้เสียหายอย่างดีที่สุด และยังให้พยาบาลสาวรายดังกล่าวพักงานเป็นการชั่วคราวเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นต้นสังกัด ยังได้แถลงข่าวถึงมาตรการช่วยเหลือและแนวทางดำเนินการต่อไป
“จากการดูคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตามเวลาที่ระบุในกล้องวงจรปิด เวลา 18.24 น.วันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ ใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีส้ม กางเกงขาสั้นสีขาว กำลังยืนล้วงกระเป๋าคุยกับพยาบาลที่สวมชุดสีชมพูภายในห้องคนไข้วิกฤต ตึกอายุรกรรมหญิง ระหว่างนั้น น.ส.ปรางค์ พยาบาล ได้เดินเข้ามาพูดกับชายคนดังกล่าวแต่กลับถูกตบเข้าที่กกหูอย่างแรงถึง 2 ครั้งจนถึงกับเซถลาไป จึงขอยืนยันว่าทางโรงพยาบาลจะดำเนินคดีตามกฎหมายกับชายคนนี้อย่างถึงที่สุด” ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลระยอง กล่าว
ด้านชมรมพนักงานกระทรวงสาธารณสุข จังหวัดระยอง ได้แสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นภัยคุกคามต่อบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย และให้กำหนดมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก
เมียผูก่อเหตุโพสต์เฟซบุ๊กระบายความในใจขอชาวเน็ตฟังเรื่องอีกมุม
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในวันนี้ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “เอ็ม อรสุชา” ได้เขียนข้อความระบายความในใจว่า แม่ของตนเองได้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่จากลูกของตนเอง จึงพาไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่เมื่อถึงเวลาเยี่ยมจึงพาลูกเข้าไปเยี่ยมยาย เพื่อให้คุณยายเห็นหลานจะได้มีกำลังใจเพราะเป็นหลานรัก โดยพยาบาลคนแรกพูดจาดีมาก และยอมให้เข้าเยี่ยม แต่ต้องรอให้เช็ดตัวเสร็จก่อน จึงออกไปรอ จนพาลูกเข้าไปอีกรอบ โดยให้สามีรออยู่ด้านนอก
แต่พอเข้าไปเจอกับพยาบาลที่ถูกทำร้าย พยาบาลได้เดินออกมาและถอดหน้ากากอนามัยโดยมีชักสีหน้าไม่พอใจ ก่อนจะพูดตะคอกว่า “สูญเสียแม่อีกคนยังไม่พอ อยากจะสูญเสียลูกอีกคนยอมรับได้ใช่ไหมพาเด็กออกไปเดี๋ยวนี้” จึงพาเด็กออกไป แล้วร้องไห้ และเพราะคำพูดของพยาบาลคนดังกล่าว ทำให้คิดว่าแม่ของตนเองไม่รอดแล้ว สามีจึงเกิดอารมณ์โมโห เดินเข้าไปถามว่าใครด่าเมียผม ก่อนจะบันดาลโทสะ ตบไป ซึ่งสามียอมรับว่าลงมือทำจริง และยอมรับผิด เตรียมรอพบตำรวจ พ.ต.อ.วีพงษ์
และจากการสอบถามไปยัง พ.ต.อ.วีพงษ์ กงแก้ว ผกก.สภ.เมืองระยอง ทราบว่าหลังเกิดเหตุชายที่ทำร้ายร่างกายพยาบาลสาว (ตามภาพในคลิปกล้องวงจรปิด)ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว และได้แจ้งกับตำรวจว่าที่ทำไปเพราะไม่พอใจคำพูดที่พยาบาลพูดว่า 'ห้องปลอดเชื้อห้ามเข้าทำไม่ไม่ฟัง เดี๋ยวก็ตายกันทั้งแม่ทั้งลูกหรอก' ซึ่งตนมีความเครียดอยู่แล้วที่ญาติป่วย จึงบันดาลโทสะก่อเหตุดังกล่าวขึ้น และหลังก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหนและได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระยองในวันเกิดเหตุทันที ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกทั้งสองฝ่ายเข้าสอบสวนเพื่อให้ความเป็นธรรมต่อไป