xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป) สาวอุดรฯ วัย 18 เล่าหมดเปลือกขณะทำงานร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในปอยเปต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อุดรธานี - กรรมติดจรวด "สาวอุดร" วัย 18 ไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กัมพูชาหลังกลับไทยตำรวจบุกจับถึงบ้านใน อ.ไชยวานตามหมายจับของศาล เพื่อนำตัวส่งดำเนินคดีที่ จ.น่าน เจ้าทุกข์แจ้งความถูกหลอกโอนเงิน ยอมรับทำหน้าที่หลอกลวงทางแชทข้อความ ปลอมเป็นหญิงสาวสวยๆ ได้เงินเดือน 17,000 บาทแต่ถูกหักสารพัดจนไม่เหลือได้ใช้สักบาท


                       

จากกรณี น.ส.บุษรา หรือโบ๊ท อายุ 18 ปี ไปทำงานอยู่กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชาได้โทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่ไทยร้องไห้ขอความช่วยเหลือ อยากจะกลับบ้าน แต่กลัวจะติดคุกเพราะมีหมายจับ อีกทั้งตอนนี้กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์บอกว่าต้องจ่ายเงิน 1,000 ดอลลาร์ ถึงจะยอมปล่อยตัว ตามที่นำเสนอข่าวไปเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา

หลังจากนั้นไม่กี่วัน น.ส.บุษรา หรือโบ๊ท ได้เดินทางกลับมาเองโดยญาติไม่ต้องจ่ายเงินกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ล่าสุด พ.ต.อ.รัฐพลชัย เพ็ญสงคราม ผกก.สภ.ไชยวาน พร้อมตำรวจชุดสืบสวน เดินทางไปที่บ้านนพเก้า หมู่ 10 ต.โพนสูง อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี เพื่อจับกุมตัว น.ส.บุษรา ตามหมายจับของศาลเยาวชน จ.น่าน และพาตัวมาบันทึกก่อนส่งตัวให้สถานีตำรวจพื้นที่ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย


ทั้งนี้ น.ส.บุษราเล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า ตัวเธอไม่ได้เต็มใจจะไปทำงานร่วมกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ไปเพราะถูกหลอกให้ไป ตอนแรกพี่รู้จักกันบอกว่าจะพาไปทำงานที่บาร์ จ.ชลบุรี แต่มารู้อีกทีก็ข้ามประเทศไปแล้ว เท่าที่จำได้ข้ามไปที่ปอยเปต ประมาณช่วงเดือนพฤศจิกายน 2567 ที่ตนทำงานนั้นมีคนไทยประมาณ 200 กว่าคน เมื่อไปถึงหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ให้ทำหน้าที่หาเหยื่อโดยคุยหลอกลวงทางแชตข้อความทั้งไลน์และเฟซบุ๊ก โดยปลอมเป็นหญิงสาวสวยๆ เคยโกหกหาข้อมูลแบล็กเมล์ ซึ่งข้อความนั้นก็จะคุยหาเหยื่อแต่ผู้ชายและคุยเรื่อง 18 บวก เท่าที่จำได้ตนเคยหลอกผู้เสียหายที่จำหน่ายอะไหล่รถยนต์โดยตอนนั้นได้เงินมาประมาณ 50,000 บาท

น.ส.บุษราบอกว่าที่ตนได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยเพราะหลังจากที่ขอความช่วยเหลือขอกลับมาบ้าน พวกกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์เห็นข่าวที่ตนให้ผ่านสื่อมวลชนไป เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาจึงปล่อยให้ตนออกมา ตั้งแต่ไปทำงานที่นั่นไม่เคยถูกทำร้ายร่างกาย เคยแต่ถูกลงโทษโดยการให้วิ่งขึ้นลงบันได 3 รอบ ตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 10 ซึ่งเหตุผลที่เขาทำโทษนั้นก็เนื่องจากทำยอดไม่ถึง ส่วนค่าตอบแทนที่ได้เขาให้เดือนละ 17,000 บาท แต่ก็ถูกหักไม่รู้ว่าหักอะไรบ้าง หักจนหมดหักจนไม่เหลืออะไร จึงอยากกลับมาบ้าน

“ตอนนี้กลับมาบ้านแล้ว ยังรู้สึกกังวลเพราะกลัวแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะกลับมาทำร้าย เนื่องจากก่อนที่จะกลับมากลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้เอาโทรศัพท์ไปโดยคิดว่าเขาน่าจะจับสัญญาณ GPS ติดตาม”


น.ส.บุษราบอกอีกว่า หัวหน้าใหญ่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นคนจีน แต่จะมีคนไทยคอยเป็นผู้จัดการดูแลให้อีกชั้นหนึ่ง สำหรับคนที่ทำงานไม่ได้นั้นก็จะถูกทำร้ายร่างกาย ทุบตีและใช้ไฟฟ้าช็อต

ด้าน พ.ต.อ.รัฐพลชัย เพ็ญสงคราม ผกก.สภ.ไชยวาน บอกว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาหมื่น จังหวัดน่านว่าได้โอนเงินให้กับ น.ส.บุษรา หรือโบ๊ท ซึ่งเป็นบัญชีม้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขออนุมัติศาลออกหมายจับและดำเนินการจับกุมตามหมายศาล หลังจากนี้เราจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาหมื่น มารับตัวอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567


กำลังโหลดความคิดเห็น